เอเอฟพี - ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันจันทร์ (23) เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยประกาศห้ามธนาคารเมลลีแบงก์ ธนาคารใหญ่ที่สุดของเตหะรานทำธุรกรรมทางการเงินในยุโรป
มาตรการดังกล่าวซึ่งจะหยุดธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ของธนาคารเมลลีแบงก์ในลอนดอน ฮัมบูร์ก และปารีส ได้ผ่านการรับรองระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกสิกรรมและประมงในลักเซมเบิร์ก นอกจากนี้ มาตการคว่ำบาตรยังรวมไปถึงการแบนวีซ่าเข้ายุโรปและอายัดทรัพย์เพิ่มเติมบุคคล 15 ราย และอีก 15 สถาบัน
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ยุโรปไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไป แต่คาดหมายว่า บุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรแกรมนิวเคลียร์และอาวุธของอิหร่าน
ไม่มีผู้นำการเมืองของอิหร่านได้รับผลกระทบต่อมาตรการดังกล่าว เพราะ “เราต้องการเจรจา” ทูตรายหนึ่งกล่าว
ความเคลื่อนไหวของอียู เดินเคียงข้างทิวแถวมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหประชาชาติ ซึ่งมีออกมาหลายระลอกนับตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อปี 2006 โดยมีเป้าหมายโน้มน้าวใจให้เตหะรานยุติกิจกรรมแปรรูปยูเรเนียม ที่ได้สร้างความกังวลต่อนานาชาติว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทว่าพวกเขาปฏิเสธและยืนยันว่าเป็นโครงการไฟฟ้าสันติภาพ
สหรัฐฯ เฝ้ารอมาตรการลงโทษนี้ของยุโรปมานานหลายเดือนและประเด็นดังกล่าวเป็นหัวข้อสำคัญของการเดินทางทัวร์ยุโรปของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
สมาชิกยุโรป 27 ชาติ ได้ร่วมทำงานเกี่ยวกับรายละเอียดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่มาตการคว่ำบาตรเพิ่มเติมนี้ต้องเลื่อนออกมา จนกระทั่งการเยือนอิหร่านในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาของประธานด้านนโยบายต่างประเทศอียู ซาเวียร์ โซลานา
โซลานาเดินทางเยือนเตหะราน เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน เพื่อแสดงข้อเสนอความร่วมมือกับอิหร่าน ในนามของ 6 ชาติมหาอำนาจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ --อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐฯ
ในข้อเสนอประกอบด้วยช่วยส่งเสริมโทคโนโลยีเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยุติกระบวนการแปรรูปยูเรเนียมที่อ่อนไหว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ (20) โซลานา บอกว่า เขายังไม่ได้รับคำตอบจากอิหร่านต่อข้อเสนอดังกล่าว
ด้านหัวหน้าเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอีด ยะลีลี บอกว่า แนวคิดให้อิหร่านยุติแปรรูปยูเรเนียม ซึ่งถูกปฏิเสธจากรัฐบาล ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่เขาได้หารือกับโซลานา
