เอเอฟพี - มาเลเซียเปิดเผยว่าราคาน้ำมันเบนซินจะกระโดดขึ้นไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5) หลังจากรัฐบาลตัดงบอุดหนุน แม้ว่าจะสร้างความลำบากให้กับประชาชนในภายภาคหน้าก็ตาม
นายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ บาดาวี กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจระงับความเติบโตทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อถีบตัวขึ้น 5.0 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จากระดับปัจจุบัน 3.0 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายน
"ราคาน้ำมันเบนซินและพืชผลเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ดังนั้นจำเป็นต้องมีการปฏิรูปมาตรการอุดหนุนน้ำมันใหม่" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว "ผมหวังว่าชาวมาเลเซียจะไม่เดินขบวนต่อต้านเรื่องนี้" เขาอ้างถึงความไม่พอใจของสาธารณชนต่อราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนมีมาตรฐานต่ำและประชาชนส่วนใหญ่อาศัยรถยนต์ส่วนบุคคล
ราคาน้ำมันเบนซินใหม่ของมาเลเซียจะอยู่ที่ 2.70 ริงกิต (ประมาณ 28 บาท) และ 2.58 ริงกิต (ประมาณ 26.80 บาท) สำหรับดีเซล จากราคาเบนซินในตอนนี้ 1.92 ริงกิต (ประมาณ 20 บาท) ซึ่งถือว่าถูกสุดในชาติเอเชียแล้ว
อัลดุลเลาะห์รับเอาความเสี่ยงทางการเมืองครั้งสำคัญในการปลดเปลื้องการควบคุมราคาน้ำมัน ขณะที่เขาพยายามกู้คืนหายนะจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งพรรครัฐบาลทำผลงานได้แย่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
ราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นคือปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง พร้อมทั้งจุดชนวนเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกครั้งแล้วครั้งเล่า "มันไม่ใช่ความพยายามเพื่อให้ได้รับความนิยม แต่เราจำเป็นต้องคิดถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน"
การตัดงบอุดหนุนของรัฐส่งผลกระทบลึกกว่าที่คาด เยห์ คิม เล็ง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยมาเลเซียกล่าว "ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และคาดหมายไว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไกลเกินกว่าที่คาดหมายไว้"
"เรามองว่าน้ำมันจะขึ้นไปราว 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ แต่นี่ 40 เปอร์เซนต์ นั่นหมายความว่ารัฐบาลควรพยายามไม่ให้ราคามันขึ้นไปมากกว่านี้" เขากล่าว
ภายใต้ระบบอุดหนุนใหม่ ผู้ขับขี่รถยนต์ขนาดเล็กจะได้รับเงินชดเชย 625 ริงกิต (ประมาณ 6,400 บาท) สำหรับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น เทียบเท่ากับการอุดหนุนน้ำมัน 800 ลิตร อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าเงินดังกล่าวไม่มากพอต่อการชดเชยสำหรับเงินที่ใช้เติมน้ำมันโดยเฉลี่ยของผู้ขับขี่
ชารีร์ ซาหมัด รัฐมนตรีการค้าภายใน บอกว่า ราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงสุดราว 3.00-4.00 ริงกิต เมื่อมีการยุติมาตรการควบคุมราคาน้ำมันอย่างสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม
ส่วนหนึ่งของแผยปฏิรูปงบอุดหนุนน้ำมัน ผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรมและพลังงานจะต้องจ่ายค่าพลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยอัตราค่าไฟฟ้าตามบ้านเรือนราษฎรจะเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ ส่วนภาคการค้าและอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์
