เอเอฟพี – หน่วยงานความช่วยเหลือเชิร์ช เวิล์ด เซอร์วิสเผย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยิ่งช่วยผลักดันให้ภาวะทุพโภชนาการในอินโดนีเซียเกือบครึ่งเกาะ ขึ้นไปอยู่ในระดับ ที่สูงกว่าการขาดแคลนอาหารในแอฟริกา
การสำรวจครอบครัว 4,800 หลังคาเรือนของกลุ่มความช่วยเหลือดังกล่าว พบว่า 61.1% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในภูมิภาคนี้แคระแกรน เนื่องจากการขาดสารอาหารขั้นรุนแรง ขณะที่ 13.1% ของเด็กมีอาการขาดสารอาหารขั้นรุนแรง
“การแพร่หลายของเด็กแคระ และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ในติมอร์ตะวันตกสูงกว่าในแอฟริกา” จูเลีย สุรยันตัน หัวหน้าผู้เขียนรายงานกล่าว
รายงานของกลุ่มนี้ยังระบุว่า ประมาณ 50% ของเด็กชาวติมอร์ตะวันตกจากจำนวนประชากรทั้งหมด 2 ล้านคน มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์อยู่ในขั้นปานกลาง ถึงร้ายแรง เมื่อเทียบกับตัวเลขในแอฟริกา 21.9%
เธอเสริมว่า “เป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยากในติมอร์ตะวันตก พวกเขามีปัญหาด้านความปลอดภัยของอาหาร และมีช่องทางการบริการสุขภาพจำกัด”
ยิ่งไปกว่านั้น สุรยันตันยังเผยว่า อีกครึ่งเกาะในฝั่งตะวันออกของประเทศ ซึ่งแห้งแล้งกว่าพื้นที่เขตร้อนส่วนมากของเกาะ ก็ประสบปัญหา เนื่องจากชาวนาชาวไร่เผชิญกับจำนวนฝน ที่ตกน้อยลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“แต่ก่อนพวกเขาสามารถปลูกข้าวโพดได้เพียงพอสำหรับ 1 ปี แต่ปัจจุบัน เหลือแค่ 8 เดือนเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องซื้อเอา” สุรยันตันกล่าว โดยเสริมว่าราคาอาหารทั่วโลกสูงขึ้นอาจทำให้หลายครอบครัวจะไม่สามารถหาเงินเพื่อซื้ออาหารให้พอกินได้ด้วย