(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Brains, not brawn, in Afghanistan
By Syed Saleem Shahzad
28/04/2008
การโจมตีอย่างห้าวหาญในกรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเล่นงานประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ และผู้ทรงเกียรติคนอื่นๆ คือการระดมยิงอีกชุดหนึ่งในขั้นตอนใหม่ของกลุ่มตอลิบานที่เน้นการดำเนินภารกิจอย่างมีเป้าหมาย มากกว่าการประจันหน้าโดยตรงกับกลไกสงครามขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ในทางกลับกัน ก็ดังที่มีหลักฐานปรากฏจากความสำเร็จอย่างสำคัญในการต่อต้านการก่อความไม่สงบ 2 ครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายนาโต้เองก็กำลังปฏิบัติการด้วยความฉลาดยิ่งขึ้น แทนที่จะอาศัยเพียงระเบิดฉลาดๆ อย่าง “สมาร์ทบอมบ์”
การาจี –การโจมตีอย่างฮึกเหิมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต่อพิธีตรวจพลสวนสนามในกรุงคาบูลเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ กำลังทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีอยู่ ถือเป็นเครื่องหมายแห่งการเริ่มต้นขั้นตอนใหม่ในการก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถาน ซึ่งจะเน้นที่การเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ข้าศึกอ่อนเปลี้ย
กลุ่มนักรบตอลิบานที่ใช้ปืนกลและเครื่องยิงจรวดเป็นอาวุธ ได้ระดมยิงกระหน่ำเข้าไปบริเวณด้านหลังของปะรำพิธีที่คาร์ไซกำลังนั่งอยู่ พร้อมกับแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวอัฟกันและชาวต่างประเทศ ซึ่งมาชุมนุมกันเนื่องในวาระครบรอบ 16 ปีแห่งการล่มสลายของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ชุดสุดท้ายในอัฟกานิสถาน
การโจมตีคราวนี้มีชาวอัฟกัน 3 คนและพวกตอลิบาน 3 คนเสียชีวิต ขณะที่พิธีสวนสนามในวันอาทิตย์ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพอัฟกันที่ผ่านการฝึกอบรมใหม่และติดอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากสหรัฐฯ การจัดงานคราวนี้มีการวางแผนเตรียมการมาหลายสัปดาห์ และการรักษาความปลอดภัยก็อยู่ในระดับสูงสุด ทว่าพวกตอลิบานยังแอบเข้ามาจนอยู่ห่างจากปะรำพิธีไม่ถึง 500 เมตร
พวกที่เข้าโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ต้องเล็ดรอดผ่านแนววงล้อมรักษาความปลอดภัยรอบๆ สถานที่จัดพิธีตรวจพลสวนสนามไม่น้อยกว่า 18 ชั้น แล้วพวกเขายังใช้อาวุธล่าสุดที่พวกเขามีอยู่ นั่นคือ ปืนครกขนาดเล็กซึ่งมีการผลิตกันในโรงงานของประเทศตะวันตกเพียงไม่กี่ประเทศ และหนึ่งในนั้นคืออิสราเอล ในรายงานข่าวเรื่อง “Al-Qaeda adds muscle to the Taliban’s fight” (เอเชียไทมส์ออนไลน์ 19 เมษายน 2008) ได้มีการรายงานไว้แล้วว่า กลุ่มตอลิบานจะใช้พวกอาวุธชนิดพิเศษต่างๆ มาเปิดการโจมตีแบบเน้นความแม่นยำ เข้าใส่เป้าหมายที่จะกลายเป็นข่าวดังเอิกเกริกทั้งหลาย
แหล่งข่าวต่างๆ ที่เอเชียไทมส์ออนไลน์ติดต่อด้วยเล่าว่า กลุ่มติดอาวุธที่เข้าโจมตีคราวนี้สังกัดอยู่ในเครือข่ายของ จาลาลุดดีน ฮักกอนี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการนักรบมูจาฮีดีนชาวอัฟกันระดับตำนาน อีกทั้งได้รับความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกจากเครือข่าย เฮซบ์-อี-อิสลามี ของ กุลบุดดีน เฮกมัตยาร์ ในกรุงคาบูลของ เฮกมัตยาร์เป็นขุนศึกและนักการเมืองชาวอัฟกันผู้เยี่ยมยอดที่สุดคนหนึ่ง
เรื่องที่น่าขันชวนแสบคันก็คือ การสวนสนามในวันอาทิตย์จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกนักรบมูจาฮีดีนที่มีเหนือพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งหลังจากชัยชนะนั้นแล้วก็กลับนำไปสู่ช่วงเวลาหลายปีแห่งการต่อสู้ระหว่างกลุ่มระหว่างฝักฝ่ายต่างๆ ครั้งเลวร้ายที่สุดของอัฟกานิสถาน จวบจนกระทั่งกองกำลังอาวุธของนักเรียนนักศึกษาอิสลาม ซึ่งก็คือขบวนการตอลิบาน เข้ายึดอำนาจได้สำเร็จในปี 1996 และขับไลเหล่าผู้นำมูจาฮีดีนทั้งหมดออกจากอำนาจการปกครอง
การสวนสนามคราวนี้มีผู้เข้าร่วมชมอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และสหประชาชาติ, พวกผู้นำชนเผ่าต่างๆ, เหล่านักการทูตและสมาชิกรัฐสภา และก็กลายเป็นการโจมตีโดยฝีมือพันธมิตรกองกำลังอาวุธต่อต้านตะวันตกครั้งที่กลายเป็นข่าวดังที่สุด นับตั้งแต่การโจมตีแบบฆ่าตัวตายที่โรงแรมเซเรนา ในกรุงคาบูล เมื่อวันที่ 14 มกราคม
เหตุการณ์คราวนี้เป็นเครื่องเตือนใจอันบาดลึกเข้าไปในความทรงจำของบรรดาผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ว่า ตอลิบานไม่ใช่เป็นพวกหมดน้ำยา ดังที่เหล่าผู้บังคับบัญชาระดับอาวุโสของสหรัฐฯในอัฟกานิสถานชอบพูดกันเลย
สัปดาห์ที่แล้ว คาร์ไซได้วิพากษ์วิจารณ์กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ในเรื่องการทำ “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” ในเขตหมู่บ้านต่างๆ ของอัฟกานิสถาน โดยเขากล่าวหาด้วยว่า ภัยคุกคามของผู้ก่อการร้ายจริงๆ แล้ว อยู่ตรงบริเวณพื้นที่พักพิงหลบภัยของตอลิบานและอัลกออิดะห์ในปากีสถาน หาใช่ในอัฟกานิสถานไม่
ความแตกต่างเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นถึงลักษณะอันสลับซับซ้อนของการต่อสู้ในอัฟกานิสถาน และทั้งสองฝ่ายต่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ เนื่องจากพวกเขาต่างพยายามฉวยประโยชน์และยังความเสียหายให้แก่ส่วนที่เป็นจุดอ่อนของกันและกัน
ตัวอย่างเช่น พวกตอลิบานได้ละทิ้งประเพณีการโจมตีแบบประจันหน้ากันตรงๆ ของพวกเขาเข้าใส่กลไกสงครามอันทรงอำนาจของนาโต้ ขณะเดียวกัน นาโต้ก็กำลังลดการพึ่งพาการโจมตีทิ้งระเบิดทางอากาศขนาดใหญ่ชนิดที่ไม่มีการแยกแยะเป้าหมายให้ละเอียดถี่ถ้วน
พวกตอลิบานกำลังพยายามตัดเส้นทางลำเลียงของนาโต้ที่ผ่านเขตไคเบอร์ เอเยนซี ในปากีสถาน และครั้งนี้ฝ่ายนาโต้ได้ตอบโต้ด้วยการข่าวแทนที่จะใช้แต่ลูกปืน โดยพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้ผู้อุปถัมภ์คนสำคัญที่สุดของตอลิบานในเขตเอเยนซีแห่งนี้ ตัดสินใจเปลี่ยนข้างและก็ทำได้สำเร็จ (ดูรายงานข่าวเรื่อง Taliban bitten by a snake in the grass เผยแพร่ทางเอเชียไทมส์ออนไลน์ วันที่ 26 เมษายน 2008)
**บทเรียนจากสมรภูมินูริสถาน**
ในเดือนนี้ กองทหารพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯพร้อมด้วยกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกัน และได้รับการสนับสนุนจากกำลังทางอากาศ ได้ออกข่าวว่าพวกเขาสามารถสังหารพวกสมาชิกกองกำลังอาวุธจำนวน “สำคัญ” จำนวนหนึ่ง ในการต่อสู้กันที่จังหวัดนูริสถาน ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถาน
รายงานข่าวในขั้นต้นบอกว่า พวกที่เข้าร่วมในการต่อสู้คราวนี้เป็นกลุ่มนักรบของเฮกมัตยาร์ อย่างไรก็ตาม ในทางเป็นจริงแล้วปฏิบัติการคราวนี้เป็นฝีมือของกลุ่มจรยุทธ์พิเศษของตอลิบานที่บังคับบัญชาโดย ชาฮีน อาบิด ผู้ซึ่งเอเชียไทมส์ออนไลน์เคยสัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว ณ ช่องเขา นาวา พาสส์ บริเวณชายแดนปากีสถานติดต่อกับอัฟกานิสถาน (ดูรายงานเรื่อง Death by the light of a silvery moon)
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากในปีก่อนๆ หน้านี้ก็คือ นาโต้ถือว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจวิธีปฏิบัติงานของพวกตอลิบาน ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถระบุตัวได้ว่าอาบิดเป็นผู้นำของการโจมตีคราวนั้น และติดตามร่องรอยของเขาย้อนกลับไปยังช่องเขา นาวา พาสส์ พร้อมกับวางกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเขา
วันที่ 22 เมษายน กลุ่มของอาบิดได้เปิดฉากการโจมตีอีกครั้งหนึ่ง ต่อกองทัพแห่งชาติของอัฟกานิสถาน ในบริเวณภาคตะวันออกของประเทศ แต่คราวนี้ความเคลื่อนไหวของเขาได้ถูกติดตาม และขณะกลับมายังนาวา พาสส์ เขาพร้อมด้วยสมาชิกในกลุ่มของเขาอีก 9 คนก็ได้ถูกสังหาร
ด้วยการใช้ความฉลาด แทนที่จะพึ่งพาอาศัยแต่ระเบิดที่คุยว่าแสดงอิทธิฤทธิ์ได้ฉลาดหลักแหลมอย่าง “สมาร์ทบอมบ์” นาโต้ก็สามารถกำจัดกลุ่มสู้รบของตอลิบานกลุ่มหนึ่งที่มีทักษะความชำนาญสูงส่ง
ในทำนองเดียวกัน พวกผู้บังคับบัญชากองกำลังอาวุธอัฟกันเฉกเช่นฮักกอนี ก็กำลังปรับแต่งวิธีของพวกเขาให้เนียนยิ่งขึ้น โดยในกรณีของฮักกอนีนั้น ก็คือการผสมผสานวิธีโจมตีแบบฆ่าตัวตาย กับภารกิจอย่างเช่นที่กระทำไปในวันอาทิตย์ที่คาบูล
จริงๆ แล้ว พวกตอลิบานมีการจัดเตรียมกลุ่มผู้เข้าโจมตีซึ่งมุ่งเล่นงานเป้าหมายในคาบูล ชนิดทำกันเป็นระลอก เพื่อสั่นคลอนรัฐบาลอัฟกันและกองกำลังทหารนาโต้ ในช่วงไม่กี่วันไม่กี่สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้
ไซเอ็ด ซาลิม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานประจำปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์
Brains, not brawn, in Afghanistan
By Syed Saleem Shahzad
28/04/2008
การโจมตีอย่างห้าวหาญในกรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเล่นงานประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ และผู้ทรงเกียรติคนอื่นๆ คือการระดมยิงอีกชุดหนึ่งในขั้นตอนใหม่ของกลุ่มตอลิบานที่เน้นการดำเนินภารกิจอย่างมีเป้าหมาย มากกว่าการประจันหน้าโดยตรงกับกลไกสงครามขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ในทางกลับกัน ก็ดังที่มีหลักฐานปรากฏจากความสำเร็จอย่างสำคัญในการต่อต้านการก่อความไม่สงบ 2 ครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายนาโต้เองก็กำลังปฏิบัติการด้วยความฉลาดยิ่งขึ้น แทนที่จะอาศัยเพียงระเบิดฉลาดๆ อย่าง “สมาร์ทบอมบ์”
การาจี –การโจมตีอย่างฮึกเหิมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต่อพิธีตรวจพลสวนสนามในกรุงคาบูลเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ กำลังทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีอยู่ ถือเป็นเครื่องหมายแห่งการเริ่มต้นขั้นตอนใหม่ในการก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถาน ซึ่งจะเน้นที่การเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ข้าศึกอ่อนเปลี้ย
กลุ่มนักรบตอลิบานที่ใช้ปืนกลและเครื่องยิงจรวดเป็นอาวุธ ได้ระดมยิงกระหน่ำเข้าไปบริเวณด้านหลังของปะรำพิธีที่คาร์ไซกำลังนั่งอยู่ พร้อมกับแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวอัฟกันและชาวต่างประเทศ ซึ่งมาชุมนุมกันเนื่องในวาระครบรอบ 16 ปีแห่งการล่มสลายของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ชุดสุดท้ายในอัฟกานิสถาน
การโจมตีคราวนี้มีชาวอัฟกัน 3 คนและพวกตอลิบาน 3 คนเสียชีวิต ขณะที่พิธีสวนสนามในวันอาทิตย์ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพอัฟกันที่ผ่านการฝึกอบรมใหม่และติดอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากสหรัฐฯ การจัดงานคราวนี้มีการวางแผนเตรียมการมาหลายสัปดาห์ และการรักษาความปลอดภัยก็อยู่ในระดับสูงสุด ทว่าพวกตอลิบานยังแอบเข้ามาจนอยู่ห่างจากปะรำพิธีไม่ถึง 500 เมตร
พวกที่เข้าโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ต้องเล็ดรอดผ่านแนววงล้อมรักษาความปลอดภัยรอบๆ สถานที่จัดพิธีตรวจพลสวนสนามไม่น้อยกว่า 18 ชั้น แล้วพวกเขายังใช้อาวุธล่าสุดที่พวกเขามีอยู่ นั่นคือ ปืนครกขนาดเล็กซึ่งมีการผลิตกันในโรงงานของประเทศตะวันตกเพียงไม่กี่ประเทศ และหนึ่งในนั้นคืออิสราเอล ในรายงานข่าวเรื่อง “Al-Qaeda adds muscle to the Taliban’s fight” (เอเชียไทมส์ออนไลน์ 19 เมษายน 2008) ได้มีการรายงานไว้แล้วว่า กลุ่มตอลิบานจะใช้พวกอาวุธชนิดพิเศษต่างๆ มาเปิดการโจมตีแบบเน้นความแม่นยำ เข้าใส่เป้าหมายที่จะกลายเป็นข่าวดังเอิกเกริกทั้งหลาย
แหล่งข่าวต่างๆ ที่เอเชียไทมส์ออนไลน์ติดต่อด้วยเล่าว่า กลุ่มติดอาวุธที่เข้าโจมตีคราวนี้สังกัดอยู่ในเครือข่ายของ จาลาลุดดีน ฮักกอนี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการนักรบมูจาฮีดีนชาวอัฟกันระดับตำนาน อีกทั้งได้รับความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกจากเครือข่าย เฮซบ์-อี-อิสลามี ของ กุลบุดดีน เฮกมัตยาร์ ในกรุงคาบูลของ เฮกมัตยาร์เป็นขุนศึกและนักการเมืองชาวอัฟกันผู้เยี่ยมยอดที่สุดคนหนึ่ง
เรื่องที่น่าขันชวนแสบคันก็คือ การสวนสนามในวันอาทิตย์จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกนักรบมูจาฮีดีนที่มีเหนือพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งหลังจากชัยชนะนั้นแล้วก็กลับนำไปสู่ช่วงเวลาหลายปีแห่งการต่อสู้ระหว่างกลุ่มระหว่างฝักฝ่ายต่างๆ ครั้งเลวร้ายที่สุดของอัฟกานิสถาน จวบจนกระทั่งกองกำลังอาวุธของนักเรียนนักศึกษาอิสลาม ซึ่งก็คือขบวนการตอลิบาน เข้ายึดอำนาจได้สำเร็จในปี 1996 และขับไลเหล่าผู้นำมูจาฮีดีนทั้งหมดออกจากอำนาจการปกครอง
การสวนสนามคราวนี้มีผู้เข้าร่วมชมอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และสหประชาชาติ, พวกผู้นำชนเผ่าต่างๆ, เหล่านักการทูตและสมาชิกรัฐสภา และก็กลายเป็นการโจมตีโดยฝีมือพันธมิตรกองกำลังอาวุธต่อต้านตะวันตกครั้งที่กลายเป็นข่าวดังที่สุด นับตั้งแต่การโจมตีแบบฆ่าตัวตายที่โรงแรมเซเรนา ในกรุงคาบูล เมื่อวันที่ 14 มกราคม
เหตุการณ์คราวนี้เป็นเครื่องเตือนใจอันบาดลึกเข้าไปในความทรงจำของบรรดาผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ว่า ตอลิบานไม่ใช่เป็นพวกหมดน้ำยา ดังที่เหล่าผู้บังคับบัญชาระดับอาวุโสของสหรัฐฯในอัฟกานิสถานชอบพูดกันเลย
สัปดาห์ที่แล้ว คาร์ไซได้วิพากษ์วิจารณ์กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ในเรื่องการทำ “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” ในเขตหมู่บ้านต่างๆ ของอัฟกานิสถาน โดยเขากล่าวหาด้วยว่า ภัยคุกคามของผู้ก่อการร้ายจริงๆ แล้ว อยู่ตรงบริเวณพื้นที่พักพิงหลบภัยของตอลิบานและอัลกออิดะห์ในปากีสถาน หาใช่ในอัฟกานิสถานไม่
ความแตกต่างเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นถึงลักษณะอันสลับซับซ้อนของการต่อสู้ในอัฟกานิสถาน และทั้งสองฝ่ายต่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ เนื่องจากพวกเขาต่างพยายามฉวยประโยชน์และยังความเสียหายให้แก่ส่วนที่เป็นจุดอ่อนของกันและกัน
ตัวอย่างเช่น พวกตอลิบานได้ละทิ้งประเพณีการโจมตีแบบประจันหน้ากันตรงๆ ของพวกเขาเข้าใส่กลไกสงครามอันทรงอำนาจของนาโต้ ขณะเดียวกัน นาโต้ก็กำลังลดการพึ่งพาการโจมตีทิ้งระเบิดทางอากาศขนาดใหญ่ชนิดที่ไม่มีการแยกแยะเป้าหมายให้ละเอียดถี่ถ้วน
พวกตอลิบานกำลังพยายามตัดเส้นทางลำเลียงของนาโต้ที่ผ่านเขตไคเบอร์ เอเยนซี ในปากีสถาน และครั้งนี้ฝ่ายนาโต้ได้ตอบโต้ด้วยการข่าวแทนที่จะใช้แต่ลูกปืน โดยพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้ผู้อุปถัมภ์คนสำคัญที่สุดของตอลิบานในเขตเอเยนซีแห่งนี้ ตัดสินใจเปลี่ยนข้างและก็ทำได้สำเร็จ (ดูรายงานข่าวเรื่อง Taliban bitten by a snake in the grass เผยแพร่ทางเอเชียไทมส์ออนไลน์ วันที่ 26 เมษายน 2008)
**บทเรียนจากสมรภูมินูริสถาน**
ในเดือนนี้ กองทหารพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯพร้อมด้วยกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกัน และได้รับการสนับสนุนจากกำลังทางอากาศ ได้ออกข่าวว่าพวกเขาสามารถสังหารพวกสมาชิกกองกำลังอาวุธจำนวน “สำคัญ” จำนวนหนึ่ง ในการต่อสู้กันที่จังหวัดนูริสถาน ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถาน
รายงานข่าวในขั้นต้นบอกว่า พวกที่เข้าร่วมในการต่อสู้คราวนี้เป็นกลุ่มนักรบของเฮกมัตยาร์ อย่างไรก็ตาม ในทางเป็นจริงแล้วปฏิบัติการคราวนี้เป็นฝีมือของกลุ่มจรยุทธ์พิเศษของตอลิบานที่บังคับบัญชาโดย ชาฮีน อาบิด ผู้ซึ่งเอเชียไทมส์ออนไลน์เคยสัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว ณ ช่องเขา นาวา พาสส์ บริเวณชายแดนปากีสถานติดต่อกับอัฟกานิสถาน (ดูรายงานเรื่อง Death by the light of a silvery moon)
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากในปีก่อนๆ หน้านี้ก็คือ นาโต้ถือว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจวิธีปฏิบัติงานของพวกตอลิบาน ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถระบุตัวได้ว่าอาบิดเป็นผู้นำของการโจมตีคราวนั้น และติดตามร่องรอยของเขาย้อนกลับไปยังช่องเขา นาวา พาสส์ พร้อมกับวางกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเขา
วันที่ 22 เมษายน กลุ่มของอาบิดได้เปิดฉากการโจมตีอีกครั้งหนึ่ง ต่อกองทัพแห่งชาติของอัฟกานิสถาน ในบริเวณภาคตะวันออกของประเทศ แต่คราวนี้ความเคลื่อนไหวของเขาได้ถูกติดตาม และขณะกลับมายังนาวา พาสส์ เขาพร้อมด้วยสมาชิกในกลุ่มของเขาอีก 9 คนก็ได้ถูกสังหาร
ด้วยการใช้ความฉลาด แทนที่จะพึ่งพาอาศัยแต่ระเบิดที่คุยว่าแสดงอิทธิฤทธิ์ได้ฉลาดหลักแหลมอย่าง “สมาร์ทบอมบ์” นาโต้ก็สามารถกำจัดกลุ่มสู้รบของตอลิบานกลุ่มหนึ่งที่มีทักษะความชำนาญสูงส่ง
ในทำนองเดียวกัน พวกผู้บังคับบัญชากองกำลังอาวุธอัฟกันเฉกเช่นฮักกอนี ก็กำลังปรับแต่งวิธีของพวกเขาให้เนียนยิ่งขึ้น โดยในกรณีของฮักกอนีนั้น ก็คือการผสมผสานวิธีโจมตีแบบฆ่าตัวตาย กับภารกิจอย่างเช่นที่กระทำไปในวันอาทิตย์ที่คาบูล
จริงๆ แล้ว พวกตอลิบานมีการจัดเตรียมกลุ่มผู้เข้าโจมตีซึ่งมุ่งเล่นงานเป้าหมายในคาบูล ชนิดทำกันเป็นระลอก เพื่อสั่นคลอนรัฐบาลอัฟกันและกองกำลังทหารนาโต้ ในช่วงไม่กี่วันไม่กี่สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้
ไซเอ็ด ซาลิม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานประจำปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์
