บีบีซี - ไรลา โอดิงกา ผู้นำฝ่ายค้านเคนยา ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ณ พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในคณะรัฐบาลผสม หลังบรรลุข้อตกลงแบ่งสรรอำนาจกับประธานาธิบดี เอ็มไว คีบากิ ยุติวิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในเคนยา
มีเสียงปรบมือสรรเสริญ ณ อาคารรัฐสภา หลัง โอดิงกา อ่านคำสัตย์สาบานเข้ารับตำแหน่ง "ที่ยึดมั่นต่อประธานาธิบดีแห่งเคนยา" ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีของเขามีองค์ประกอบหลักมาจากข้อตกลงแบ่งสรรอำนาจกับประธานาธิบดี คีบากี เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงภายในประเทศ
ประชาชน 1,500 เสียชีวิตและอีกกว่า 600,000 ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัยในความรุนแรงที่สิบเนื่องมาจากความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม โดยโอดิงกากล่าวหาว่าคีบากิโกงการเลือกตั้งจนนำไปสู่ความวุ่นวาย ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์แบ่งสรรอำนาจอย่างเท่าเทียม
โอดิงกากล่าวในพิธีสาบานตนซึ่งมีประธานาธิบดี คีบากิเป็นประธานว่า "ตอนนี้เราสามารถจารึกความล้มเหลวด้านคอร์รัปชั่นมหึมาและลัทธิชนเผ่าในอดีตลงในหนังสือประวัติศาสตร์ของเรา"
"ผม ไรลา อโมโล โอดิงกา ขอสาบานว่าผมจะยึดมั่นต่อประธานาธิบดีเคนยาและรับใช้ด้วยหัวใจ และผมปกปักรักษา ปกป้องและป้องกันรัฐธรรมนูญของเคนยา"
เขา กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของคณะรัฐมนตรีคือช่วยเหลือตั้งรกรากใหม่ให้กับผู้คนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอันเนื่องมาจากความรุนแรง พร้อมกันนี้เขายังได้กล่าวชมความอดทนของประชาชนชาวเคนยาในช่วงเจรจาสันติภาพ
คีบากิและโอดิงกาเคยเป็นพันธมิตรกันในการเลือกตั้งเมื่อปี 2001 แต่เกิดบาดหมางกันเมื่อประธานาธิบดีไม่แต่งตั้งโอดิงกาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งที่มีรายงานว่าพวกเขาตกลงกันแล้ว
มีเครื่องหมายคำถามว่าทั้ง 2 คนและกลุ่มผู้สนับสนุนของพวกเขาจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่หลังจากเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรง
ในพิธีสาบานตนของโอดิงกา มีโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ คนกลางในข้อตกลงแบ่งสรรอำนาจ ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เช่นเดียวกับประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนร แห่งยูกันดา และผู้นำชาติแอฟริกาตะวันออกคนอื่นๆ
รัฐบาลชุดนี้ประกอบด้วยรัฐมนตรี 40 คนและรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 52 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดรับตั้งแต่ เคนยา เป็นเอกราช