ซีเอ็นเอ็น – โคฟี อันนัน อดีตเลขาฯ ยูเอ็น ขู่จะเลิกเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติความตึงเครียดทางการเมืองในเคนยา หากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสำคัญๆ ได้ ผู้ช่วยระดับสูงของอันนันเผยเมื่อวานนี้ (25)
คณะเจรจาซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากรัฐบาลและฝ่ายค้านยุติการหารือเมื่อวานนี้ (25) หลังจากดำเนินไปได้เพียงครึ่งวัน แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทีมเจรจา ระบุว่า การประชุมสันติภาพเดินมาถึงภาวะชะงักงัน
อันนัน ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ไกล่เกลี่ยในการเจรจาครั้งนี้ มีท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“หลังการหารือที่ตึงเครียดในช่วงเช้าดำเนินไปได้ 4 ชั่วโมง คณะเจรจาก็ไม่มีความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลง” อันนันกล่าวในคำแถลง “ผมต้องสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญๆ ได้”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดในทันทีว่า จุดสำคัญที่ทำให้การเจรจาดำเนินมาสู่ภาวะชักงันงันคือเรื่องอะไร
อดีตเลขาฯ ยูเอ็นผู้นี้ เข้าพบผู้นำของทั้งสองฝ่ายเมื่อวานนี้ เพื่ออ้อนวอนให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลหันหน้ามาเจรจาตกลงกัน เพื่อยุติความตึงเครียดทางการเมือง ที่นำไปสู่เหตุจลาจลนองเลือดในเคนยา
ด้านผู้แทนทั้ง 2 ฝ่าย อ้างเมื่อวานนี้ ว่า รัฐบาลเห็นชอบตามข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านที่ต้องการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยอำนาจและรายละเอียดในตำแหน่งดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุย
ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน บอกว่า ต้องการจะแบ่งสันอำนาจบางส่วนกับรัฐบาลชุดใหม่ของเคนยา
สถานการณ์ความรุนแรงในเคนยาอุบัติขึ้นเมื่อประธานาธิบดี เอ็มวาอิ คิบาคี จากชนเผ่าคีคูยู ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ สามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้แบบฉิวเฉียดในเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้งจาก ไรลา โอดิงกา ประธานพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นชาวเผ่าลูโอ ชนเผ่าอันดับรอง เหตุความรุนแรงส่วนมากเป็นการต่อสู้ระหว่างคนต่างชาติพันธุ์เห็นได้ชัด โดยมีทั้งการสังหารแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หรือการลอบวางเพลิง
เหตุจลาจลนองเลือดภายหลังการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วมากว่า 1,000 ราย และมีผู้ลี้ภัยกว่า 300,000 ชีวิต ทำลายชื่อเสียงด้านความปลอดภัยของเคนยา พร้อมกันนี้ ยังสร้างความเสียหายให้กับภาคเศรษฐกิจต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกชา หรือการท่องเที่ยวอีกด้วย