เดลิเมล์ - ศาลอาญากลางในกรุงลอนดอน กำลังพิจารณาคดี หนุ่มอินเดียวางแผนฆ่าเมียตัวเอง เพื่อเอาเงินประกันกว่า 24 ล้านบาท แล้วหนีไปอยู่กินกับชู้ ที่เป็นคุณตัวจากลิทัวเนีย
ฟาดี นาซรี ถูกกล่าวหาว่าฆ่าเมียตัวเอง เนื่องจากเขามีสัมพันธ์รักกับ ลอรา มอกคีน และยังติดหนี้ก้อนใหญ่ รวมไปถึงว่า เขาเคยต้องการเอาเงินประกันประมาณ 24,500,000 บาท มาใช้เมื่อ 3 เดือนก่อนที่เธอจะเสียชีวิตด้วย
พาเทล-นาซรี วัย 29 ปี เลือดออกจนเสียชีวิต หลังจากถูกแทงหน้าบ้านของเธอ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2006 ในคืนที่เธอ และสามีฉลองครบรอบการแต่งงาน 3 ปี
ตำรวจพบหลักฐานว่า 2 เดือนก่อนที่เธอจะถูกฆาตกรรม นาซรี วัย 34 ปี ไปเที่ยวอียิปต์ และ ลิทัวเนีย กับสาวมอกคีน อย่างลับๆ โดยโกหกว่าไปเยี่ยมลุงที่ล้มป่วย ซึ่งตำรวจก็สามารถจับกุมตัวเขาได้ที่แฟลตของมอกคีนด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจยังให้การในชั้นศาลว่า นาซรี ได้ว่าจ้างพ่อค้ายา โรเจอร์ เลสลี วัย 38 ปี ให้เตรียมการการฆาตกรรมอย่างแยบยล โดยมีชายอีก 2 คน ให้ความร่วมมือในการบุกบ้านของพวกเขาในคืนนั้น ทว่า ทั้ง 4 คนปฏิเสธข้อกล่าวหา
พยานให้การว่า พาเทล-นาซรี เป็นสาวแกร่งทำงานอย่างหนักทั้ง 7 วันในร้านทำผม ทำรายงานให้กับธุรกิจรถลีมูซีนของสามี และยังอาสาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เธอเคยปรับทุกข์กับเพื่อนว่าเธอกำลังตัดสินใจจะหย่า เนื่องจากเธอต้องการมีลูก แต่สามีของเธอกลับตีตัวออกห่าง โดยอ้างว่าเหนื่อยจากการทำงาน
ขณะที่ หนุ่มนาซรี เคยทำธุรกิจเอเยนซี แต่ก็ปิดไป เพื่อเริ่มบริษัทลีมูซีนใหม่ในปี 2004 ซึ่งพาเทลได้ช่วยเรื่องเงินทุน และยังวางเงินถึง 3,640,000 บาท เป็นเงินมัดจำซื้อบ้านราคากว่า 24 ล้านบาท ในเวมบลีย์ ทางเหนือของกรุงลอนดอน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2005
และในเดือนกุมภาพันธ์ 2006 พวกเขาทั้งคู่ได้ทำประกันชีวิต ซึ่งจะจ่ายเงินเท่ากับมูลค่าของบ้าน หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต ทว่า พวกเขายังเป็นหนี้ธนาคารมากกว่า 7,000,000 บาท
ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาถึงความสัมพันธ์ของนาซรีกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง และปัญหาชีวิตแต่งงานอาจเป็นมูลเหตุ หรือแรงจูงใจให้เขาฆ่าภรรยาตัวเอง ทว่า การพิจารณาคดียังดำเนินต่อไป