เอเอฟพี – หน่วยงานดูแลรับผิดชอบของญี่ปุ่น สั่งการให้บริษัทเล็กกระจิ๋วที่แทบไม่มีใครรู้จักรายหนึ่ง แก้ไขรายงานที่ส่งไปถึงทางการ โดยอวดอ้างว่าตนเองได้เข้าซื้อหุ้นเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายแห่ง อาทิ โซนี่ และ โตโยต้า มอเตอร์ เจ้าหน้าที่หลายรายเปิดเผยวันนี้ (28)
เทราเมนโตะ คอร์ป ซึ่งมีรายงานว่ามีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 1,000 เยน (ราว 310 บาท) ได้ทำให้พวกเจ้าหน้าที่งุนงงและหงุดหงิดไปตามๆ กันในวันศุกร์ที่แล้ว (25) ด้วยการอวดอ้างว่า ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 51% ของพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดัง อันได้แก่ โซนี่ คอร์ป, โตโยต้า คอร์ป, นิปปอน เทเลกราฟ แอนด์ เทเลโฟน คอร์ป (เอ็นทีที), มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์, ฟูจิ เทเลวิชั่น เน็ตเวิร์ก อิงก์, และ แอสเทลลัส ฟาร์มา อิงก์ รวมแล้วเป็นมูลค่า 188,000 ล้านดอลลาร์
บริษัทซึ่งจดทะเบียนเป็นบริษัท ที่เมืองคาวาซากิซิตี้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กรุงโตเกียว และทำธุรกิจในด้านไอทีตลอดจนด้านอื่นๆ ด้วยนั้น อ้างการซื้อกิจการเป็นเงินมหึมาดังกล่าว ไว้ในรายงานซึ่งส่งถึงทบวงบริการทางการเงิน (เอฟเอสเอ) อันเป็นหน่วยงานกำกับตรวจสอบภาคการเงินของญี่ปุ่น ผ่านทางระบบแจ้งสารสนเทศด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการในวันศุกร์
รายงานดังกล่าวเป็นเหตุให้เอฟเอสเอต้องรีบเปิดการตรวจสอบในทันที เนื่องจากมูลค่ารวมของดีลที่อ้างเหล่านี้ รวมกันแล้วจะเท่ากับประมาณ 20 ล้านล้านเยน (188,000 ล้านดอลลาร์) เกือบๆ หนึ่งในสี่ของงบประมาณแผ่นดินของญี่ปุ่น
ทางทบวง “วินิจฉัยว่าข้ออ้างเรื่อง (การเข้าถือหุ้น) 51% ดังกล่าวเป็นข้ออ้างที่ไม่จริง และสั่งให้บริษัทแห่งนี้แก้ไขรายงานของตนแล้ว” เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของหน่วยงานส่วนท้องถิ่นของเอฟเอสเอ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเมืองคาวาซากิ ระบุในการแถลง
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า ได้สั่งให้เทราเมนโตะแก้ไขรายงานภายในเวลา 17.15 น. ของวันนี้ (ตรงกับเวลา 15.15 น. เมืองไทย) อันเป็นเวลาที่ระบบแจ้งสารสนเทศด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะปิดทำการในวันนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนสาย บริษัทแห่งนี้ก็ยังไม่ได้ส่งรายงานแก้ไข โดยที่หากไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งแล้ว เทราเมนโตะก็อาจถูกลงโทษ ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน
ก่อนหน้านี้ โยมิอูริชิมบุง หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดของญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวโดยอ้างคำพูดของผู้แทนของเทราเมนโตะ ที่กล่าวว่า “ผมเปิดบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง แต่อยู่ได้ก็ด้วยการทำงานพาร์ตไทม์หลายๆ งานไปด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมส่งรายงานไปนั้น จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างนี้”
เทราเมนโตะ คอร์ป ซึ่งมีรายงานว่ามีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 1,000 เยน (ราว 310 บาท) ได้ทำให้พวกเจ้าหน้าที่งุนงงและหงุดหงิดไปตามๆ กันในวันศุกร์ที่แล้ว (25) ด้วยการอวดอ้างว่า ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 51% ของพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดัง อันได้แก่ โซนี่ คอร์ป, โตโยต้า คอร์ป, นิปปอน เทเลกราฟ แอนด์ เทเลโฟน คอร์ป (เอ็นทีที), มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์, ฟูจิ เทเลวิชั่น เน็ตเวิร์ก อิงก์, และ แอสเทลลัส ฟาร์มา อิงก์ รวมแล้วเป็นมูลค่า 188,000 ล้านดอลลาร์
บริษัทซึ่งจดทะเบียนเป็นบริษัท ที่เมืองคาวาซากิซิตี้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กรุงโตเกียว และทำธุรกิจในด้านไอทีตลอดจนด้านอื่นๆ ด้วยนั้น อ้างการซื้อกิจการเป็นเงินมหึมาดังกล่าว ไว้ในรายงานซึ่งส่งถึงทบวงบริการทางการเงิน (เอฟเอสเอ) อันเป็นหน่วยงานกำกับตรวจสอบภาคการเงินของญี่ปุ่น ผ่านทางระบบแจ้งสารสนเทศด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการในวันศุกร์
รายงานดังกล่าวเป็นเหตุให้เอฟเอสเอต้องรีบเปิดการตรวจสอบในทันที เนื่องจากมูลค่ารวมของดีลที่อ้างเหล่านี้ รวมกันแล้วจะเท่ากับประมาณ 20 ล้านล้านเยน (188,000 ล้านดอลลาร์) เกือบๆ หนึ่งในสี่ของงบประมาณแผ่นดินของญี่ปุ่น
ทางทบวง “วินิจฉัยว่าข้ออ้างเรื่อง (การเข้าถือหุ้น) 51% ดังกล่าวเป็นข้ออ้างที่ไม่จริง และสั่งให้บริษัทแห่งนี้แก้ไขรายงานของตนแล้ว” เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของหน่วยงานส่วนท้องถิ่นของเอฟเอสเอ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเมืองคาวาซากิ ระบุในการแถลง
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า ได้สั่งให้เทราเมนโตะแก้ไขรายงานภายในเวลา 17.15 น. ของวันนี้ (ตรงกับเวลา 15.15 น. เมืองไทย) อันเป็นเวลาที่ระบบแจ้งสารสนเทศด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะปิดทำการในวันนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนสาย บริษัทแห่งนี้ก็ยังไม่ได้ส่งรายงานแก้ไข โดยที่หากไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งแล้ว เทราเมนโตะก็อาจถูกลงโทษ ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน
ก่อนหน้านี้ โยมิอูริชิมบุง หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดของญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวโดยอ้างคำพูดของผู้แทนของเทราเมนโตะ ที่กล่าวว่า “ผมเปิดบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง แต่อยู่ได้ก็ด้วยการทำงานพาร์ตไทม์หลายๆ งานไปด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมส่งรายงานไปนั้น จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างนี้”
