เอเอฟพี/เอเจนซี - รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช บรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส เห็นพ้องในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่าราว 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการคืนภาษีมากที่สุด 600 ดอลลาร์ให้กับประชาชนที่ยังไม่มีครอบครัว และ 1200 ดอลลาร์ให้กับประชาชนที่มีครอบครัวแล้ว และมาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจ มุ่งเป้าเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทว่า นักวิเคราะห์ยังกังขาแผนกระตุ้นฉบับนี้อาจไม่ช่วยดึงเศรษฐกิจสหรัฐฯให้พ้นจากภาวะถดถอย ด้านตลาดการเงินขานรับข่าวดีนี้ทำให้หุ้นกระเตื้องขึ้น ขณะที่น้ำมันขึ้นกว่า 2%
เมื่อวันพฤหัสบดี (24) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวที่ทำเนียบขาวและสมาชิกระดับสูงในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทั้งฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครต เห็นพ้องในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากที่ประธานาธิบดีบุชออกมาเรียกร้องให้มีการผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วเพื่อฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังใกล้จะก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างหนัก
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานรายละเอียดของแผนการนี้ ประกอบด้วยการคืนภาษีอย่างน้อย 300 ดอลลาร์ ให้แก่ประชาชนที่เสียภาษีในปีที่แล้ว และคืนภาษีให้เพิ่มเติมแก่ผู้ที่มีคู่สมรสและบุตร โดยประชาชนที่ยังไม่มีครอบครัวจะได้เงินคืนภาษีสูงสุดคนละ 600 ดอลลาร์ ขณะที่คู่สามีภรรยาที่แต่งงานแล้วจะได้เงินคืนภาษีสูงสุด 1,200 ดอลลลาร์ หากมีบุตรก็จะได้เพิ่มอีกคนละ 300 ดอลลาร์ ทั้งนี้ คาดกันว่าครอบครัวอเมริกัน 117,000,000 ครอบครัวจะได้รับเช็คคืนภาษีดังกล่าวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แผนการนี้ยังกล่าวถึงเนื้อหาที่ระบุว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยบางคนซึ่งมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดให้เสียภาษี ยังจะได้รับเงินคืนภาษีอย่างน้อย 300 ดอลลาร์ ทั้งนี้ สมาชิกสภาคองเกรสกล่าวว่า เนื้อหาส่วนนี้น่าจะช่วยครอบครัวอเมริกันที่ยังทำงานอยู่ 35,000,000 ครอบครัว
นอกจากนี้ ยังมีแผนการกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจ โดยบริษัทจะได้รับส่วนลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ 50% โดยทันที
การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วและกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกนั้น ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสกับฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯมีเสียงเอกฉันท์สนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แถลงว่า แผนดังกล่าวเป็นการมอบเงินให้กับชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชนชั้นกลางและผู้ที่ปรารถนาจะเป็นชนชั้นกลางในสหรัฐฯ ทั้งนี้ แผนดังกล่าวยังคงต้องหารือกันในวุฒิสภา
แฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภา กล่าวว่า ตนต้องการให้เพิ่มมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เช่น สวัสดิการสำหรับคนว่างงาน ความช่วยเหลือด้านโภชนาการ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
ทางด้านนักวิเคราะห์ต่างมองว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของบุชนั้นอาจจะน้อยเกินไปและช้าเกินกว่าที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ด่ำดิ่งสู่ภาวะถดถอย
ปีเตอร์ โมรีซี นักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งแมริแลนด์ กล่าวว่า การให้เงินสดแก่ประชาชนถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวก็ไม่เพียงพอที่จะป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แผนการมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์อาจจะเพียงแค่ชดเชยการขาดทุนของธนาคารต่างๆได้อย่างคร่าวๆ เท่านั้น
บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า คงต้องใช้เวลาถึงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน กว่าที่รัฐบาลจะสามารถส่งเช็คคืนภาษีให้กับประชาชนได้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็สายเกินกว่าที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่ตกอยู่ในวิกฤติการเงิน
อย่างไรก็ดี ตลาดการเงินต่างมีปฏิกิริยาเชิงบวกต่อข่าวแถลงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว โดยดัชนีสำคัญๆในตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี ก็ปิดตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทั้งในตลาดนิวยอร์กและลอนดอน ก็ปิดตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์
