xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” ชี้พลังชุมนุมแม้รัฐบาลยังไม่ล้มแต่ยันได้ใกล้แตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“พิภพ” ประเมินการชุมนุม แม้จะยังล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่พลังจากประชาชนก็สามารถกันท่า ไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ หรือทำสิ่งเลวร้ายอื่นๆ ถึงขั้นนี้ไม่ใช่แค่ “เมีย” แต่อดีตคนร่วมรัฐบาล “สมคิด” ก็เริ่มโดนคดีความตามด้วยแล้ว ว่า “หมัก” ไร้สมรรถภาพ ขนาดแค่ รมต.กลาโหมกัมพูชายังชี้เขตได้ แต่นายกฯ ควบตำแหน่งกลับนิ่ง ปล่อย “รมว.ต่างประเทศ” จัดการ แถมยังเป็นรัฐบาลที่ถูกถอดถอนมากที่สุด

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.15 น. นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีชุมนุม บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยสรุปสถานการณ์การชุมนุม ณ ปัจจุบันว่า ขณะนี้การชุมนุมอยู่ในภาวะยันรัฐบาลไว้ได้ ซึ่งรัฐบาลต้องการจะแก้รัฐธรรมนูญก็ยังไม่กล้าแก้ เพราะเสียงของผู้ชุมนุมที่อยู่ตรงนี้ และที่ติดตามจากเอเอสทีวี อีกทั้งบางกลุ่มที่เห็นด้วยแต่ไม่ได้ชม ถือเป็นเสียงที่ช่วยสนับสนุน

นายพิภพ กล่าวว่า ในพรรคร่วมรัฐบาลกำลังแตกแยก คดีความต่างๆ กำลังคืบหน้า ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อทำลายคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก็ทำไม่ได้ ทำให้ คตส. สามารถทำงานไปจนหมดวาระ ตอนนี้พลังประชาชนกำลังคิด จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดคดีความ ก็มีการคุยกันในหมู่นักกฎหมาย ว่า อาจจะไม่มีผล หรือการแก้รัฐธรรมนูญ อาจมีผลในการปลดล็อก 111 คนด้วย เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรองไปแล้ว

“ไปเห็นข่าวเล็กๆ ว่า เจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จะต้องไม่ติดคดีความ ทั้งในและนอกประเทศ พอข่าวคุณหญิงอ้อติดคุกไปถึงอังกฤษ ก็เริ่มมีการพูดกันว่า ถ้าคดีของคุณทักษิณไปถึงตรงนั้น ก็ต้องมีการบีบให้ถอดตัวออกจากการเป็นเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บีบให้เอาหุ้นไปขาย”

ขณะเดียวกัน ทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณก็อ้างว่า คดีความทั้งหมดที่ติดตัว พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เพราะศาลฎีกาไม่มีความชอบธรรม ตัดสินคดีที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้นายพิภพเชื่อว่า น่าจะเอาประเด็นนี้มาสู้ แทนการมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้อดีตนายกรัฐมนตรีหลุดพ้นความผิดต่างๆ

“เราต้องสู้กันยาวแน่นอน เพราะตั้งแต่ก่อน 19 ก.ย.49 เราออกมาชี้ว่าคุณทักษิณและครอบครัวมีการทุจริตคอร์รัปชัน และมีผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างกรณีเอ็กซิมแบงก์ที่ปล่อยกู้พม่า หรือคดีเทมาเส็กของสิงคโปร์ ซึ่งคดีที่ขึ้นศาลทุกวันนี้ไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีที่มีการทุจริตจริง เราต้องยกประโยชน์ ให้พันธมิตรที่ยกคดีนี้ขึ้นมาให้ คตส. ไปทำต่อ”

ต่อมาเมื่อมีความพยายามทำลายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยให้ตีความว่า ที่มาของ ป.ป.ช.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งศาลก็บอกว่าไม่ขัด จะทำลาย ป.ป.ช. ก็ทำไม่ได้ ทำลาย คตส. ก็ทำไม่ได้

นอกจากนี้ นายพิภพยังระบุว่า การบริหารงานของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีก็ไม่เข้มแข้งและไม่มีจุดยืน แม้จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าไปด้วย โดยเฉพาะในกรณีเขาพระวิหาร ที่ประเทศเล็กๆ อย่างกัมพูชา ตัวรัฐมนตรี กลาโหมเอง ยังมีบทบาทขนาดชี้ได้ว่า ตรงนี้ตรงนั้นเป็นของเขา แต่ รมว.กลาโหมไทยเงียบกริบ จะผลักภาระให้แต่ นายเตช บุญนาค รมว.ต่างประเทศ จัดการอย่างเดียวเลยหรือ พร้อมทั้งถามว่า นายกฯ ไทยไม่มีจุดยืนต่อเรื่องนี้เลยหรืออย่างไร

“วันนี้ทำใหญ่ ต้อนรับนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แต่เราก็ต้องระวัง เขาไม่ได้สนใจประเทศไทย แต่อยากให้เป็นฐานรับลัทธิอเมริกา ซึ่งจริงๆ เขาเป็นตัวร้าย แต่คนไทยน่ารัก มาที่นี่ไม่มีใครประท้วงเลย” นายพิภพ กล่าว และชวนผู้ร่วมชุมนุมโห่ให้แก่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่นายสมัครกำลังเจรจาทวิภาคีอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า เกรงจะน้อยหน้าเกาหลีใต้ และผู้นำอเมริกาไปที่ใดก็จะต้องมีผู้ออกมาประท้วงเสมอ เพราะเป็นเจ้าลัทธิทุนนิยม

จากนั้น นายพิภพกลับมาพูดถึงผลของการชุมนุมอีกครั้งว่า การที่มีผู้ชุมนุมอยู่ตรงนี้ ส่งผลให้ คตส. ทำคดีสำเร็จ จากตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ไล่มาถึง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกฯ และลามไปที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลในสมัยนั้นด้วยแล้ว

“จะเกิดการแกว่งทางอำนาจ อย่ามาบอกว่าประชาชนไม่มีกำลัง ที่จะจัดการอำนาจที่มีอยู่ของรัฐบาล แม้จะไม่สามารถจัดการอย่างเบ็ดเสร็จได้ แต้ตอนนี้แตกแล้ว เป็น 2 กลุ่ม แต่เขาบอกว่ามี 4 กลุ่ม ถ้าคุณสมัครโดนเรื่องชิมไปบ่นไปเมื่อไร ก็หมดสภาพ ส่วนคุณเฉลิมโดนปรับออกไปแล้ว เลยมาโต้ตอบกับเราไม่ได้ เหลือแต่คุณสมัคร ที่พยายามจะหยุดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรให้ได้ ด้วยมาตรา 63 เรื่องสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม แต่ก็หยุดไปแล้ว”

“ต่อมาจะมาเอาวันที่ 5 ธันวา อ้างพระราชพิธีไม่ให้เราชุมนุม ไหนๆ เราก็มาแล้ว เราก็ร่วมทำพิธีกรรมเพื่อความจงรักภักดี รวมถึงวันที่ 12 สิงหา เราจะแสดงความจงรักภักดี ด้วยจิตใจ ไม่มีการเมืองเบื้องหลัง” นายพิภพกล่าว

อีกทั้ง เขายังชี้ว่า รัฐบาลชุดนี้ทำผิดกฎหมายมากมาย ดูได้จากการเข้าชื่อเพื่อถอดถอน โดยเริ่มจากการถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงชื่อหนุนแก้รัฐธรรมนูญ, การถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข กรณีแทรกแซงสื่อ, การเข้าชื่อถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ทำผิดต่อหน้าที่ ขณะอยู่ในตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข, การยื่นถอดถอน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ถือหุ้นโรงโม่, การถอดถอนนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ขณะอยู่ในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ที่ถือหุ้นในบริษัทเกินกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนด แต่นายวิรุฬพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และยังมีเรื่องชิมไปบ่นไป ของนายสมัครเอง

“รัฐบาลชุดนี้ ทำความผิดเต็มไปหมด จนมีการเข้าชื่อถอดถอนมากที่สุด ประชาชนเข้าชื่อยาวเหยียด ผมกลัวจะถอดถอนไม่ทันที่รัฐบาลจะไปเสียก่อน” นายพิภพกล่าว พร้อมทั้งยังมีกรณี การแต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นที่ปรึกษา เข้าข่ายผิดกฎหมายทับซ้อน แม้ไม่รับเงินเดือน แต่การที่ ดร.วีรพงษ์เป็นที่ปรึกษา 11 บริษัท ก็อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้

“มีคนมาแก้ตัวแทน ดร.โกร่งว่าเป็นคนดี จะแยกแยะได้ เราเชื่อได้ไหมว่าจะไม่เอื้อต่อบริษัทของเขา เราหมดสมัยในความเชื่อแล้ว เหมือนที่ศาลตัดสินหญิงอ้อ ว่ารวยมหาศาล แค่เสียภาษีทำไมไม่ทำ แต่สิ่งที่เขาทำผิด แม้อาจจะไม่เห็นในวันนี้ แต่อีก 4-5 ปีก็ปรากฏ เหมือนที่เป็นคดีความกันในวันนี้ ก็เพราะรัฐบาลทำความผิดไว้เมื่อ 4-5 ปีก่อน แม้พันธมิตรจะไม่ชุมนุมต่อเนื่องไปถึง 7-8 ปีข้างหน้า แต่ก็พร้อมจะชุมนุมในอนาคต หากการเมืองมีปัญหา เพราะพันธมิตรเป็นเครือข่ายที่ช่วยสร้างการเมือง ความสำเร็จมีมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน” นายพิภพกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น