xs
xsm
sm
md
lg

ไอเอ็มเอฟชี้ “เอเชียอาคเนย์” อ่วม เจอพิษ ศก.มะกันแถมต้องสู้ “จีน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟ มองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจได้รับผลกระทบหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ อีกทั้งยังเผชิญกับการแข่งขันกับจีนที่หนักหน่วงขึ้น ในการแข่งกันส่งสินค้าออก คาด จีนอาจหั่นราคาสินค้า หากสหรัฐฯนำเข้าลดลง หวังรักษาความได้เปรียบในสมรภูมิการส่งออก

เห็นได้ชัดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่าเป็นผลมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวและวิกฤตสินเชื่อตึงตัวนั้น จะทำให้ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว นำโดยจีน ตัดลดปริมาณการส่งออก

สตีเฟน ดันอเวย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อวันอังคาร (22) ว่า จากการคำนวณอย่างคร่าวๆ นั้น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตลดลงราว 1% เศรษฐกิจเอเชียก็อาจเติบโตลดลงราว 0.5-1% ขึ้นอยู่กับว่าผลกระทบใดบ้างที่แพร่ขยายออกนอกสหรัฐฯ

“มันจะมีผลกระทบมากขึ้นต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังเผชิญกับการแข่งขันโดยตรงจากจีน ในแง่ของปริมาณสินค้าส่งออก” ดันอเวย์ กล่าว

ดันอเวย์ กล่าวในเวทีประชุมเรื่องเศรษฐกิจจีน ซึ่งจัดขึ้นที่ วู้ดโรว์ วิลสัน อินเตอร์แนชั่นนัล เซ็นเตอร์ ฟอร์ สกอลาร์ส ในกรุงวอชิงตัน ว่า ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขึ้น สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ และการแข่งขันจากจีนที่เพิ่มขึ้น

ดันอเวย์ กล่าวว่า หากสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าลดลง ชาติผู้ส่งออกในเอเชียก็จะแข่งขันกันแย่งชิงเค้กที่มีขนาดเล็กลง อีกทั้งยังพูดถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะหั่นราคาสินค้าเพื่อทำให้ยังคงมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับชาติอื่นๆ

“หากจีนเองก็เผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากมากขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จีนน่าจะคงราคาสินค้าส่งออกไว้เท่าเดิมเป็นอย่างน้อย หากไม่ตัดลดราคาสินค้า สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่ออัตราผลกำไรและเพิ่มแรงกดดันด้านการแข่งขันต่อบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับบริษัทในประเทศอื่นๆ ที่กำลังแข่งขันกับบริษัทจีน” ดันอเวย์ กล่าว

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตที่เน้นการใช้แรงงาน ดูเหมือนจะทำให้จีนได้เปรียบในการแข่งขันกับชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น ประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ก็กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังทำให้ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบและผลผลิตขั้นกลาง จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (21) โดมินีก สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในช่วงที่หลายฝ่ายจับตาดูภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงและอาจกระทบต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิกของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจเอเชียอันเป็นผลจากภาวะถดถอยในสหรัฐฯ นั้น จะรุนแรงเพียงใด ขึ้นอยู่กับนโยบายรับมือของชาติต่างๆ

“เกือบทุกประเทศอยู่ในฐานะที่สามารถผ่อนปรนนโยบายการเงิน หรือนโยบายการคลัง ดังนั้น ประเทศเหล่านี้ก็จะสามารถบรรเทาผลกระทบจากภาวะถดถอยที่แพร่กระจายจากสหรัฐฯ ได้”

อนึ่ง มีบางสำนักที่มีแนวคิดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำให้จีนมีเวลาได้พักหายใจได้บ้าง ทั้งนี้ จีนพยายามอย่างหนักที่จะลดภาวะเงินเฟ้อเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก มีสภาวะเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไป

ทว่า ดันอเวย์ กล่าวว่า รัฐบาลจีนน่าจะยังคงเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลงทุนสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อทำให้เศรษฐกิจยังคงเติบโตในอัตรา 9-10%
กำลังโหลดความคิดเห็น