เอเจนซี - กลุ่มเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนเผยแพร่รายงานชี้เสรีภาพทางการเมืองเสื่อมทรามถดถอยในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ปากีสถาน จีน ชมไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเสรีภาพไปในทางที่ดีขึ้น
ฟรีดอมเฮ้าส์ องค์การด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ เผยแพร่ผลสำรวจทั่วโลกประจำปี เมื่อวานนี้ (16) ระบุว่า ในปี 2007 สิทธิทางการเมืองและอิสรภาพของประชาชนใน 1 ใน 5 ของประเทศทั่วโลก อยู่ในภาวะถอยหลังเข้าคลอง
อาร์ก พัดดิงตัน ผู้อำนวยการด้านการวิจัยแห่งฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าอิสรภาพทั่วโลกกำลังเสื่อมทรามลง ในระดับที่น่าวิตกกังวลอย่างล้ำลึก
ผลสำรวจชิ้นนี้ระบุว่าในปี 2007 จำนวนประเทศที่ฟรีดอมเฮ้าส์ตีตราว่าเป็นประเทศ "อิสระ"นั้น อยู่ที่ 90 ประเทศ คิดเป็น 46% ของจำนวนประชากรทั่วโลก จำนวนประเทศเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากผลสำรวจเมื่อปีก่อนอย่างใด ทว่า ประเทศที่ปัจจุบันถูกระบุว่า "มีอิสระบางส่วน" และ"ไม่อิสระ"นั้น หลายประเทศมีประชาธิปไตยที่ถอยหลังเข้าคลองอย่างมาก ในปี 2007
ผลสำรวจชิ้นนี้ยังระบุอีกว่า มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการเสื่อมถอยของเสรีภาพ ในประเทศ 38 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และประเทศที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต
ฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า มีประเทศเพียง 10 ประเทศเท่านั้นซึ่งรวมถึงไทยและโตโก ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
ผลสำรวจประจำปีของฟรีดอมเฮ้าส์ยังชี้ว่า เสรีภาพเสื่อมทรามลงอย่างเห็นได้ชัด ในประเทศเอกาธิปไตยที่มีระบบเศรษฐกิจตลาด และประเทศเผด็จการที่มีพลังงานอุดมสมบูรณ์ เช่น รัสเซีย อิหร่าน เวเนซุเอลา และจีน
"รัฐบาลพยายามเข้าควบคุมอำนาจของตลาดขณะที่พยายามรักษาระบบการเมืองแบบปิด สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดยิ่งในรัสเซียและจีน แต่ก็เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆในโลกเช่นกัน" ฟรีดอมเฮ้าส์กล่าว
ฟรีดอมเฮ้าส์ มองว่า การเลือกตั้งในรัสเซียเมื่อปีที่แล้วเป็นเพียง"ภาพลวงตา" นอกจากนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ยังมีอิทธิพลอันเลวร้ายที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นอดีตสหภาพโซเวียต โดยใช้อิทธิพลกดดันชาติที่รัสเซียไม่ยอมรับ เช่น เอสโตเนีย แต่ให้ความช่วยเหลือด้านการเมือง จิตใจ และสิ่งของวัสดุอุปกรณ์ ให้แก่ผู้นำเผด็จการที่ครอบงำเอเชียกลาง เช่น อุซเบกิสถาน คีร์กีซสถาน
สำหรับปากีสถานซึ่งถูกฟรีดอมเฮ้าส์ตราหน้าว่า "ไม่อิสระ" แล้วนั้น ในปัจจุบันก็เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ พยายามทำให้อำนาจของตนเองแข็งแกร่งด้วยการปราบปรามพวกฝ่ายค้าน นอกจากนี้ เหตุรุนแรงทางการเมืองก็เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดจากการลอบสังหารเบนาซีร์ บุตโต อดีตผู้นำฝ่ายค้าน
ขณะที่จีนถือเป็นประเทศ "ไม่อิสระ" ที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ผลสำรวจของฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า บางคนคาดหวังว่าผู้นำจีนจะริเริ่มการปฏิรูปก่อนหน้ากีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ปีนี้ ทว่า ผู้นำจีนไม่ได้ทำเช่นนั้น ยังคงปราบปรามนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักข่าวอินเทอร์เน็ต และทนายต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
ผลสำรวจของฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวต่อว่า ในบางแนวทาง การเตรียมการสำหรับกีฬาโอลิมปิกยิ่งสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ต่อต้านประชาธิปไตย โดยผู้นำรัฐบาลสั่งการให้ขับไล่ประชาชนออกจากถิ่นฐานแล้วปรับเปลี่ยนพื้นที่เหล่านั้นเป็นที่ก่อสร้างสาธารณูปโภคสำหรับกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังออกข้อจำกัดใหม่ๆต่อชนกลุ่มน้อยที่มีเชื้อชาติและศาสนาแตกต่างจากคนส่วนใหญ่
ทั้งนี้ จีนอยู่ในอันดับที่เหนือกว่าเพียงแค่ประเทศที่ฟรีดอมเฮ้าส์เรียกว่า "ประเทศที่เลวร้ายที่สุดของกลุ่มที่เลวร้ายที่สุด" ในแง่ของสิทธิทางการเมืองและอิสรภาพของประชาชน ประเทศที่อยู่ในข่ายนี้ก็เช่น คิวบา เกาหลีเหนือ เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน ลิเบีย ซูดาน และพม่า
ฟรีดอมเฮ้าส์ องค์การด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ เผยแพร่ผลสำรวจทั่วโลกประจำปี เมื่อวานนี้ (16) ระบุว่า ในปี 2007 สิทธิทางการเมืองและอิสรภาพของประชาชนใน 1 ใน 5 ของประเทศทั่วโลก อยู่ในภาวะถอยหลังเข้าคลอง
อาร์ก พัดดิงตัน ผู้อำนวยการด้านการวิจัยแห่งฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าอิสรภาพทั่วโลกกำลังเสื่อมทรามลง ในระดับที่น่าวิตกกังวลอย่างล้ำลึก
ผลสำรวจชิ้นนี้ระบุว่าในปี 2007 จำนวนประเทศที่ฟรีดอมเฮ้าส์ตีตราว่าเป็นประเทศ "อิสระ"นั้น อยู่ที่ 90 ประเทศ คิดเป็น 46% ของจำนวนประชากรทั่วโลก จำนวนประเทศเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากผลสำรวจเมื่อปีก่อนอย่างใด ทว่า ประเทศที่ปัจจุบันถูกระบุว่า "มีอิสระบางส่วน" และ"ไม่อิสระ"นั้น หลายประเทศมีประชาธิปไตยที่ถอยหลังเข้าคลองอย่างมาก ในปี 2007
ผลสำรวจชิ้นนี้ยังระบุอีกว่า มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการเสื่อมถอยของเสรีภาพ ในประเทศ 38 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และประเทศที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต
ฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า มีประเทศเพียง 10 ประเทศเท่านั้นซึ่งรวมถึงไทยและโตโก ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
ผลสำรวจประจำปีของฟรีดอมเฮ้าส์ยังชี้ว่า เสรีภาพเสื่อมทรามลงอย่างเห็นได้ชัด ในประเทศเอกาธิปไตยที่มีระบบเศรษฐกิจตลาด และประเทศเผด็จการที่มีพลังงานอุดมสมบูรณ์ เช่น รัสเซีย อิหร่าน เวเนซุเอลา และจีน
"รัฐบาลพยายามเข้าควบคุมอำนาจของตลาดขณะที่พยายามรักษาระบบการเมืองแบบปิด สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดยิ่งในรัสเซียและจีน แต่ก็เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆในโลกเช่นกัน" ฟรีดอมเฮ้าส์กล่าว
ฟรีดอมเฮ้าส์ มองว่า การเลือกตั้งในรัสเซียเมื่อปีที่แล้วเป็นเพียง"ภาพลวงตา" นอกจากนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ยังมีอิทธิพลอันเลวร้ายที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นอดีตสหภาพโซเวียต โดยใช้อิทธิพลกดดันชาติที่รัสเซียไม่ยอมรับ เช่น เอสโตเนีย แต่ให้ความช่วยเหลือด้านการเมือง จิตใจ และสิ่งของวัสดุอุปกรณ์ ให้แก่ผู้นำเผด็จการที่ครอบงำเอเชียกลาง เช่น อุซเบกิสถาน คีร์กีซสถาน
สำหรับปากีสถานซึ่งถูกฟรีดอมเฮ้าส์ตราหน้าว่า "ไม่อิสระ" แล้วนั้น ในปัจจุบันก็เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ พยายามทำให้อำนาจของตนเองแข็งแกร่งด้วยการปราบปรามพวกฝ่ายค้าน นอกจากนี้ เหตุรุนแรงทางการเมืองก็เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดจากการลอบสังหารเบนาซีร์ บุตโต อดีตผู้นำฝ่ายค้าน
ขณะที่จีนถือเป็นประเทศ "ไม่อิสระ" ที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ผลสำรวจของฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวว่า บางคนคาดหวังว่าผู้นำจีนจะริเริ่มการปฏิรูปก่อนหน้ากีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ปีนี้ ทว่า ผู้นำจีนไม่ได้ทำเช่นนั้น ยังคงปราบปรามนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักข่าวอินเทอร์เน็ต และทนายต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
ผลสำรวจของฟรีดอมเฮ้าส์ กล่าวต่อว่า ในบางแนวทาง การเตรียมการสำหรับกีฬาโอลิมปิกยิ่งสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ต่อต้านประชาธิปไตย โดยผู้นำรัฐบาลสั่งการให้ขับไล่ประชาชนออกจากถิ่นฐานแล้วปรับเปลี่ยนพื้นที่เหล่านั้นเป็นที่ก่อสร้างสาธารณูปโภคสำหรับกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังออกข้อจำกัดใหม่ๆต่อชนกลุ่มน้อยที่มีเชื้อชาติและศาสนาแตกต่างจากคนส่วนใหญ่
ทั้งนี้ จีนอยู่ในอันดับที่เหนือกว่าเพียงแค่ประเทศที่ฟรีดอมเฮ้าส์เรียกว่า "ประเทศที่เลวร้ายที่สุดของกลุ่มที่เลวร้ายที่สุด" ในแง่ของสิทธิทางการเมืองและอิสรภาพของประชาชน ประเทศที่อยู่ในข่ายนี้ก็เช่น คิวบา เกาหลีเหนือ เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน ลิเบีย ซูดาน และพม่า