xs
xsm
sm
md
lg

"กรมสมเด็จพระเทพฯ"จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงฟังปาฐกถาเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ 18 ส.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงฟังปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ในวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568 ณ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและสภากาชาดไทยได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยในปีนี้ ได้รับเกียรติจากนางมีรยานา สปอลยาริช เอ็กเกอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) มาแสดงปาฐกถาในหัวข้อ “การธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามร่วมสมัย”

นางมีรยานาฯ เข้ารับตำแหน่งประธาน ICRC ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 โดยก่อนหน้านี้ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ ผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุดโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) และผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคยุโรปและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชของ UNDP ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ทั้งนี้ นางมีรยานาฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์โดดเด่นในเวทีพหุภาคี และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและหัวหน้ากรมสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ สมาพันธรัฐสวิส นอกจากนี้ นางมีรยานาฯ ยังได้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและภารกิจสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ในองค์การสหประชาชาติ รวมทั้งเวทีการประชุมระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมด้วย

ปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศซึ่งรวมถึงกฎเกณฑ์และการจำกัดขอบเขตของความรุนแรงของการขัดกันทางอาวุธพร้อมเน้นย้ำการให้ความคุ้มครองผู้ที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ตลอดจนบทบาทและภารกิจของกาชาดสากลต่อสาธารณชน โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวมาแสดงปาฐกถา ตลอดจนให้ข้อคิดเห็นต่อการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมในประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจทั้งในบริบทของไทยและนานาชาติ

โดยปาฐกถาฯ ครั้งที่ 11 นี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถาไม่ต่ำกว่า 300 คน ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านมนุษยธรรมของไทย คณะทูต นายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ องค์การระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา นักวิชาการ และสื่อมวลชน ซึ่งจะได้รับฟังประสบการณ์การทำงานที่ท้าทายของนางมีรยานาฯ อันเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศไทยเดินหน้าสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างแข็งขันต่อไป