นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กองทุนฯ ได้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดภาระหนี้สินและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล โดยคณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ดังนี้
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2. ลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
3. ลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้
- ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
- ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ www.studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
4. ลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
นอกจากนั้น กองทุนฯ ได้ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันที่ผิดนัดชำระหนี้ จากเดิมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เว้นแต่คดีที่ใกล้ขาดอายุความ ชะลอการบังคับคดีกับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว เว้นแต่คดีที่ใกล้จะหมดระยะเวลาบังคับคดี (10 ปี) รวมถึงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ และอยู่ระหว่างขั้นตอนการขายทอดตลาด ซึ่งต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาและผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินสามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวได้ที่ www.studentloan.or.th หรือตรวจสอบยอดชำระได้ที่แอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0 2016 4888
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2. ลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
3. ลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้
- ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
- ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ www.studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
4. ลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
นอกจากนั้น กองทุนฯ ได้ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันที่ผิดนัดชำระหนี้ จากเดิมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เว้นแต่คดีที่ใกล้ขาดอายุความ ชะลอการบังคับคดีกับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว เว้นแต่คดีที่ใกล้จะหมดระยะเวลาบังคับคดี (10 ปี) รวมถึงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ และอยู่ระหว่างขั้นตอนการขายทอดตลาด ซึ่งต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาและผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินสามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวได้ที่ www.studentloan.or.th หรือตรวจสอบยอดชำระได้ที่แอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0 2016 4888