นายกฯ พอใจสัญญาณ ศก.ดีขึ้น สั่งหาตลาดเพิ่มช่วงหลายประเทศงดส่งออก ชี้เป็นโอกาสของไทย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยเฉพาะในส่วนของการส่งออก ให้การสนับสนุนการหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขยายตลาดจากกรณีที่ขณะนี้หลายประเทศได้มีนโยบายปกป้องอาหาร (Food protection) งดการส่งออกสินค้าบางรายการ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม กรณีที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสำคัญหลายรายการ จะเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออก สามารถขยายตลาดเพิ่มเติมได้

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2565 เติบโตที่ร้อยละ 0.56 เป็นบวกต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่แปด ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประเมินแนวโน้มผ่านเครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (EWS-IE) พบว่าใน 1-2 เดือนข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมจะยังขยายตัวได้ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการเติบโตของการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งไทยและต่างประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค การเดินทางของประชาชนและการใช้จ่ายมากขึ้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีพอใจสัญญาณทางเศรษฐกิจ ทั้งการผลิตอุตสาหกรรม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ สะท้อนถึงแนวโน้มการมีงานทำและกำลังการใช้จ่ายของประชาชนที่จะดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลมุ่งดูแลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้เกิดการจ้างงานให้ประชาชนมีรายได้