นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2565 เวลา 15.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 135 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรคจำนวน 122 ราย และในเรือนจำสีแดง 13 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 711 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 85.6% กลุ่มสีเหลือง 14.1% และกลุ่มสีแดง 0.3% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 91,145 ราย หรือ 96.5% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 94,523 ราย โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 203 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ยังคงไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ส่งผลให้สถานะเรือนจำคงที่ กล่าวคือ มีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 139 แห่ง และเรือนจำสีแดง 3 แห่ง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) และคาดว่าเรือนจำทั้งหมดจะพ้นจากการระบาดได้ในสิ้นเดือนเมษายนนี้
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 243,633 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,673 ราย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK
อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข