นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 134 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรคจำนวน 115 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 19 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 639 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 83.4% กลุ่มสีเหลือง 16.1% และกลุ่มสีแดง 0.5% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 90,799 ราย หรือ 96.5% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 94,100 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 203 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ขณะที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา พ้นจากการระบาดของโรคแล้ว อีกทั้งยังมีเรือนจำอีก 2 แห่งที่สามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ ได้แก่ เรือนจำอำเภอเทิง และเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน จึงส่งผลให้สถานะเรือนจำสีขาวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 139 แห่ง และเรือนจำสีแดงลดลงเหลือ 3 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 2 แห่ง และเรือนจำที่กำลังอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรคอีก 1 แห่ง ซึ่งคาดว่าเรือนจำทั้งหมดจะพ้นจากการระบาดได้ในระยะต่อไป
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 249,913 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 265,885 ราย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข