นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ 22 เม.ย.65 นี้ เวลา 13.00 น. สมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. นนทบุรี ขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีกรมโยธาธิการฯ กระทรวงมหาดไทย จัดงบหลวง 60 ล้านบาท ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำมูลและลำห้วยสักไพร ซึ่งยาวเพียง 600 เมตร ทำเฉพาะด้านหน้ารีสอร์ทของนักการเมืองใหญ่ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ค่ายสีฟ้า ถือเป็นการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอ้างว่าเป็นความต้องการของชาวบ้าน บ้านทุ่งเทิงหมู่ 4 และบ้านหนองสโน หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ความจริงทั้ง 2 หมู่บ้านตั้งอยู่ห่างไกลริมแม่น้ำมูลถึง 2 กม. ชาวบ้านจึงไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการสร้างเขื่อนแห่งนี้ เพราะสถานที่ก่อสร้างเขื่อนคือริมแม่น้ำมูลและลำห้วยตลอดความยาว 600 เมตรดังกล่าว กลับอยู่บริเวณด้านหน้ารีสอร์ทของนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดอุบลราชธานี ค่ายสีฟ้า โดยไม่มีการทำประคม เพียงแต่ให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งชาวบ้านให้รับทราบว่า ทางการจะสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูลพัง แต่ไม่บอกสถานที่สร้าง ผู้ใหญ่บ้านยอมรับว่าชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์จากเขื่อนนี้ มีแต่รีสอร์ทของนักการเมืองใหญ่เท่านั้นที่ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว แต่จำเป็นต้องทำ เพราะเกรงใจและเกรงกลัวอิทธิพล เรื่องนี้ให้ไปสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านได้
เมื่อตรวจสอบงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างพบว่าต้องใช้ถึง 60 ล้านบาท โดยมีการตั้งงบประมาณไว้ในปี 2563-2565 และได้ทำสัญญากับผู้รับจ้างขยายเวลาเป็นปี 63-66 เหลืองบ 59,340,000 บาท (ดูในหนังสืองบฯ เล่มขาวคาดแดง ปี 63,64,65 ก.มหาดไทย กรมโยธาฯ) เมื่อตรวจสอบในพื้นที่ขณะนี้พบว่า กำลังเริ่มลงมือก่อสร้างเปิดหน้าดินริมแม่น้ำมูลหน้ารีสอร์ทนักการเมืองดังกล่าว มีข้อพิรุธหลายประการ โดยสามารถสังเกตตามภาพถ่ายการก่อสร้างนั้น จะดำเนินการเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำมูลหน้ารีสอร์ทดังกล่าวเท่านั้น บริเวณริมน้ำมูลตอนเหนือและตอนใต้หลายสิบหลายร้อยกิโลเมตรไม่มีการก่อสร้าง แต่อย่างใด
เรื่องนี้เป็นกรณีสำคัญที่อาจเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ของฝ่ายราชการให้กับนักการเมืองใหญ่ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ สีฟ้า อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน อันอาจเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ เพียงเพื่อสนองความต้องการของนักการเมืองโดยชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์เลย สมควรจะยกเลิกแล้วเอางบประมาณไปสร้างแหล่งน้ำอื่นที่จำเป็นให้ชาวบ้านจะดีกว่า
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหากับชาวบ้าน เช่น เรื่องหนองน้ำกระทุมซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะที่ชาวบ้านได้อาศัยจับปูปลากุ้งหอยมาบริโภคตั้งแต่ปู่ย่าตายาย แต่ทว่าตอนนี้นักการเมืองใหญ่ท่านนี้ได้ล้อมรั้วเอาเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทกีดกันห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปจับสัตว์น้ำในหนองน้ำสาธารณะอีกต่อไป โดยลำห้วยสักไพรที่อยู่ติดรีสอร์ทก็ให้ญาติๆ ไปซื้อที่ดินฝั่งห้วยตรงข้ามแล้วทำรั้วปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านไปใช้ลำห้วยได้เช่นปกติอีกต่อไป ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ต้องตรวจสอบเอาผิดให้หมดว่ามีใครเอื้อประโยชน์ ละเลยเพิกเฉยบ้าง