จากกรณีที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า เมื่อคืนก่อนช่วยแชร์ตามหาญาติผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 40-50 ปี ช่วงสงกรานต์จะกลับบ้านจึงขึ้นรถไฟจาก จ.สงขลา แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าโดยสารถูกไล่ลงจากรถไฟ และเขาถูกรถไฟชนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริง โดยจากการตรวจสอบข้อมูลและสอบถามพนักงานบนขบวนรถ พนักงานสถานีและนายสถานีชุมทางทุ่งสง ยืนยันว่าไม่มีเหตุผู้โดยสารไม่มีตั๋วโดยสารขึ้นมาบนขบวนรถ แล้วโดนไล่ลงเพราะไม่มีเงินค่าโดยสารแต่อย่างใด ซึ่งตามระเบียบการรถไฟฯ นั้นหากตรวจพบผู้โดยสารที่ไม่มีค่าโดยสารหรือไม่มีตั๋วโดยสาร ทางพนักงานจะต้องมีการแจ้งให้นายสถานีรับทราบ
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วหากพบผู้โดยสารบนขบวนรถที่ไม่มีตั๋วโดยสาร การรถไฟฯ จะมีระเบียบปฏิบัติระบุไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าผู้โดยสารไม่มีตั๋วโดยสารขึ้นโดยสารมากับขบวนรถ พนักงานบนขบวนรถจะต้องนำผู้โดยสารไปส่งมอบให้กับนายสถานีที่ขบวนรถจะต้องหยุดในสถานีถัดไป และห้ามไม่ให้พนักงานบนขบวนรถไล่ผู้โดยสารที่ไม่มีตั๋วโดยสารลงจากขบวนรถโดยพลการอย่างเด็ดขาด ซึ่งนายสถานีจะรับตัวไว้เพื่อสอบถามและดำเนินการให้ความช่วยเหลือ หากผู้โดยสารเดือดร้อนไม่สามารถนำเงินมาชำระค่าตั๋วโดยสารได้ ตามระเบียบของการรถไฟฯ สามารถออกใบส่งตัวผู้โดยสารที่เดือดร้อน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกับขบวนรถที่กำหนดไว้ตามระเบียบต่อไป
นอกจากนี้ ขณะที่เกิดเหตุการณ์รถไฟชนผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นรถด่วนขบวนพิเศษที่ 32 หาดใหญ่–กรุงเทพ ทางพนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าวได้แจ้งว่า ช่วงเกิดเหตุได้พบชายรายนี้ได้นอนขวางขบวนรถ แต่เนื่องจากเป็นที่มืดและพบเห็นในระยะกระชั้นชิดจึงไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน เป็นเหตุให้รถไฟทับร่างชายดังกล่าว และจากการติดตามของพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลบุคคลกับชาวบ้านในย่านที่เกิดเหตุยังไม่มีใครรู้จักขายคนดังกล่าวว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ที่มีการแชร์ข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ว่าพนักงานการรถไฟไล่ผู้โดยสารลงจากขบวนรถ จนทำให้ถูกรถไฟทับจนเสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมือกับในการตรวจสอบ รวมถึงช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมต่อไป
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.railway.co.th หรือโทรสายด่วน 1690