นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 น.) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 169 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 86 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 83 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,310 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 88.5% กลุ่มสีเหลือง 11.4% และกลุ่มสีแดง 0.1% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,200 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 90,010 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 18 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 190 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบการระบาดใหม่ที่เรือนจำจังหวัดเลย ขณะที่เรือนจำกลางนครปฐม พบการระบาดซ้ำในแดนเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้เริ่มกระบวนการดูแลรักษา และเข้าควบคุมการระบาดอย่างเป็นระบบแล้ว ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวลดลงเหลือ 124 แห่ง และเรือนจำสีแดง 18 แห่ง โดยเรือนจำสีแดงส่วนหนึ่งสามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้ว รวม 13 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดพังงา เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำจังหวัดชุมพร เรือนจำกลางขอนแก่น เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เรือนจำอำเภอเกาะสมุย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เรือนจำอำเภอหลังสวน และเรือนจำจังหวัดระนอง ซึ่งคาดว่าจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,182 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 268,648 ราย