นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 น.) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 61 ราย เป็นการพบในห้องกักโรค 34 ราย จากแดนในเรือนจำสีแดง 27 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 705 ราย (ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 90% และกลุ่มสีเหลือง 10%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 85,767 ราย หรือ 96.4% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 88,954 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 190 ราย คิดเป็น 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบการติดเชื้อซ้ำในแดนบางส่วนที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเรือนจำอำเภอแม่สอด ทำให้สถานะเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 129 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 13 แห่ง โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง คือ เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำจังหวัดพังงา และเรือนจำอำเภอไชยา และ 6 แห่งเป็นเรือนจำที่พบการติดเชื้อซ้ำในแดนบางส่วนเท่านั้น คือ เรือนจำจังหวัดภูเก็ต เรือนจำอำเภอแม่สอด เรือนจำกลางขอนแก่น เรือนจำจังหวัดระนอง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น และเรือนจำอำเภอหลังสวน ขณะที่เรือนจำกลางพิษณุโลกนั้น สามารถพ้นจากการระบาดทั้งเรือนจำได้แล้วในวันนี้ (3 ก.พ.) ส่วนเรือนจำจังหวัดอุทัยธานี และเรือนจำอำเภอรัตนบุรี กำลังอยู่ในแผน EXIT ซึ่งคาดว่าจะพ้นจากการระบาดได้เร็ว ๆ นี้
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,651 ราย หรือคิดเป็น 91.16% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 271,615 ราย