นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย นำผู้ประกอบการเอกชน เข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. ยื่นข้อเสนอการแนวทางส่งเสริมตลาดดิจิทัล ด้วยการยกเว้นภาษีรายได้จากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 3-5 ปี เพื่อให้ตลาดเติบโต จากนั้นจึงค่อยพิจารณาจัดเก็บภาษี
นายปริญญ์ มองว่า เมื่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเข้มแข็ง รัฐบาลจะจัดเก็บภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากค่าธรรมเนียมการเทรดได้เพิ่มขึ้น และอาจจัดเก็บได้มากกว่าภาษีจากนักลงทุนรายย่อย รวมทั้งยังหารือเกี่ยวกับการตีความ "โทเคน" ว่า เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทไหน เป็นสินค้าหรือไม่ เพราะหากตีความว่าเป็นสินค้า ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เป็นต้น จึงต้องมีความชัดเจนมากขึ้น
ในเมื่อตลาดยังไม่โตเต็มที่ การเก็บภาษีในช่วงเวลานี้นักลงทุนอาจย้ายหนี เพราะตลาดดิจิทัล นักลงทุนเลือกเทรดกับตลาดต่างประเทศได้ อาจทำให้สตาร์ทอัพด้านสินทรัพย์ดิจิทัลไทยเสียโอกาส และจากการหารือกรมสรรพากรหลายครั้ง เกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บภาษี โดยกรมสรรพากรได้เร่งสรุปแนวทางการจัดเก็บ ทางสมาคมดิจิทัลมองว่าไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม เพราะการเร่งกระบวนการเพื่อหาข้อสรุปในระยะเวลาอันสั้นๆ อาจได้ไม่คุ้มเสีย และยังผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย