xs
xsm
sm
md
lg

กรมราชทัณฑ์พบโควิดระบาดใหม่ในเรือนจำค่อนข้างชะลอตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 9 ราย และในเรือนจำสีแดงอีก 1 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 499 ราย (กลุ่มสีเขียว 83.6% สีเหลือง 15.6% และสีแดง 0.8%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 85,162 ราย หรือ 96.8% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 88,011 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตเป็นวันที่ 3 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 187 ราย คิดเป็น 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ยังคงไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จึงมีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 136 แห่ง และเรือนจำสีแดง 6 แห่งคงเดิม ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 4 แห่ง คือ เรือนจำอำเภอไชยาและเรือนจำกลางพิษณุโลกที่เป็นเรือนจำระบาดใหม่ ส่วนเรือนจำจังหวัดภูเก็ตและเรือนจำจังหวัดอุทัยธานีเป็นเรือนจำที่พบการติดเชื้อซ้ำในแดนบางส่วน ขณะที่เรือนจำอีก 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่และเรือนจำกลางราชบุรี อยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) และจะพ้นจากการระบาดในช่วงปลายสัปดาห์นี้

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุม พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยทั่วไปดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีเรือนจำระบาดใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังเป็นไปอย่างชะลอตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการทำงานของห้องแยกกักโรคที่สามารถป้องกันเชื้อจากผู้ต้องขังรับใหม่ก่อนเข้าภายในเรือนจำได้เป็นอย่างดี รวมถึงมาตรฐานในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ที่ดำเนินการได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานภายใต้การประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อดำเนินการรักษาและให้ยาได้อย่างทันท่วงที จึงช่วยลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักและลดอัตราการเสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด

ขณะเดียวกัน การดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ต้องขังสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยพบว่าปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 264,681 ราย หรือคิดเป็น 94.29% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 280,685 ราย แต่อย่างไรก็ตาม ทุกเรือนจำ/ทัณฑสถานยังคงต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย รวมถึงผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อ หรือเคยได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเป็นระยะเวลามากกว่า 3 เดือนเพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งจะช่วยรักษาและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ