นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวถึงการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งคริปโทเคอเรนซี และโทเคนดิจิทัล ว่า โดยปกติหากมีการขายแล้วมีกำไร ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (4) จัดอยู่ในหมวดของการลงทุนแบบเดียวกับดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งผู้จ่ายเงินได้ มีหน้าที่ต้องเสียภาษี ถ้าเข้าไปดูแบบ ก็จะมีรายละเอียดในคำอธิบายแต่ละข้อว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจะมีอยู่หนึ่งข้อคือผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนและคริปโทเคอเรนซี และโทเคนดิจิทัล ที่ได้กำไร โดยเรื่องนี้เป็นกฎหมายอยู่แล้วว่า หากมีกำไรจากการขาย ก็ต้องมีหน้าที่นำมารวมคำนวณกับเงินได้ประเภทอื่น ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วไปเทรดคริปโต ตรงนี้นอกจากเงินเดือน ก็ต้องเอาตัวนี้มาใส่ที่มาตรา 40 (4)
โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ส่วนกรณีผู้ที่มีกำไรจากเทรดดังกล่าวและไม่ยื่นภาษี เรื่องนี้มีข้อมูลอยู่แล้ว และสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งก็ต้องดูความผิดปกติของแต่ละราย ขึ้นอยู่กับสรรพากรในแต่ละพื้นที่ว่าจะมีการตรวจสอบอย่างไร
ที่ผ่านมาการยื่นภาษีในมาตรา 40 (4) มีรายละเอียดย่อยค่อนข้างมาก ประชาชนอาจยังไม่ทราบทั้งหมดว่าต้องยื่นรายได้ในส่วนนี้ พอมีข่าวออกมาอาจจะทำให้เกิดความตื่นตัว ซึ่งทางกรมสรรพากรพยายามประชาสัมพันธ์ให้ทราบ เพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่ต้องมีภาระย้อนหลัง หากถูกตรวจสอบว่าไม่ได้ยื่น