จากกรณีที่ระบุว่าคนที่มีพฤติกรรมอั้นปัสสาวะบ่อยๆ นั้น อาจทำให้เสี่ยงเป็นนิ่วได้ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงและให้ข้อมูลว่า การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ นั้นไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็นนิ่วแต่อย่างใด โดยพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงเป็นนิ่วนั้น มีดังนี้ การดื่มน้ำน้อย, การที่มีภาวะอ้วน, กินเนื้อสัตว์เยอะ, กินเค็ม, กินวิตามินซีมากกว่า 2000 มก.ต่อวัน, กินอาหารที่มีสาร oxalate เยอะในปริมาณมาก เช่น ผักปวยเล้ง, บีตรูต, ช็อกโกแลต, ถั่ว, ชา เป็นต้น ก็ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วด้วยเช่นกัน ส่วนแคลเซียมเสริมนั้น ถ้ากินพร้อมอาหารก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
โดยอาการของโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของก้อนนิ่ว, ระดับการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ, การมีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย
ดังนั้นผู้ป่วยโรคนิ่วอาจเป็นได้ตั้งแต่ ไม่มีอาการ, ปัสสาวะปนเลือด, ปวดบั้นเอว, ปัสสาวะสะดุด, ปัสสาวะมีเม็ดนิ่วหลุดออกมา หรือถ้ามีภาวะอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะอาจจะทำให้มีอาการ ปวดร้าวลงบริเวณขาหนีบ, อาการปวดบีบๆ เป็นพักๆ, คลื่นไส้ได้ และถ้ามีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะร่วมด้วยก็จะทำให้มีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีไข้, ปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นฉุน, อั้นปัสสาวะลำบาก เป็นต้น
ในส่วนของการรักษาโรคนิ่วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของนิ่ว ขนาด และตำแหน่งของนิ่วด้วย ซึ่งมีตั้งแต่ การปรับพฤติกรรม, การรักษาด้วยยา, การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (shock wave), การส่องกล้องผ่านทางท่อปัสสาวะ, การส่องกล้องผ่านทางการเจาะผิวหนัง, การผ่าตัดส่องกล้องหรือผ่าตัดเปิดเพื่อเอานิ่วออก
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร. 0-2590-6000