พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน ระบุว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงนี้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดฝนตกทั่วทั้งประเทศ และตกหนักบางแห่ง ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ฝนที่ตกหนักในจังหวัดภาคกลางทางตอนบนของกรุงเทพมหานคร อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครมีระดับสูงเพิ่มมากขึ้น สมทบกับระดับที่สูงขึ้นจากฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่มีจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากพายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่"
ปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,400-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยวันนี้ (เวลา 10.00 น.) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดของกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ระดับ 1.55 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานครอยู่ประมาณ 1.45 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และยังต่ำกว่าระดับน้ำในปี 2554 ที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 2.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ถึงแม้ว่าระดับน้ำยังไม่วิกฤต กรุงเทพมหานครก็ยังคงเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมตามแนวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา โดยควบคุมการเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ กระสอบทราย และมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด พร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในทันที
และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำเหนือ และติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน และประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางในการป้องกัน และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำให้มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ให้น้อยที่สุด โดยได้อัปเดตสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ ปริมาณฝน ซึ่งมีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ https://dds.bangkok.go.th/ ตลอดเวลา
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ฝนที่ตกหนักในจังหวัดภาคกลางทางตอนบนของกรุงเทพมหานคร อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครมีระดับสูงเพิ่มมากขึ้น สมทบกับระดับที่สูงขึ้นจากฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่มีจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากพายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่"
ปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,400-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยวันนี้ (เวลา 10.00 น.) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดของกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ระดับ 1.55 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานครอยู่ประมาณ 1.45 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และยังต่ำกว่าระดับน้ำในปี 2554 ที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 2.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ถึงแม้ว่าระดับน้ำยังไม่วิกฤต กรุงเทพมหานครก็ยังคงเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมตามแนวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา โดยควบคุมการเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ กระสอบทราย และมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด พร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในทันที
และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำเหนือ และติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน และประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางในการป้องกัน และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำให้มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ให้น้อยที่สุด โดยได้อัปเดตสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ ปริมาณฝน ซึ่งมีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ https://dds.bangkok.go.th/ ตลอดเวลา