น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานว่าขณะนี้ได้เกิดปัญหาขยะติดเชื้อตกค้างจำนวนมากในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งที่มาจากโรคพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย และการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งจำนวนขยะติดเชื้อดังกล่าวเกินศักยภาพของเตาเผาขยะทั้งประเทศที่มีอยู่
นอกจากนี้ ยังพบว่าเกณฑ์ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะติดเชื้อที่มีอยู่ยังไม่เอื้ออำนวยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการกำจัดขยะติดเชื้อได้อย่างเหมาะสมเท่าทันสถานการณ์ จึงทำให้มีขยะติดเชื้อตกค้างอยู่ในพื้นที่ต่างๆ จำนวนมาก
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน นายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 ให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้โดยด่วน เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานผลิตไฟฟ้าสามารถขออนุญาตใช้ขยะติดเชื้อเป็นเชื้อเพลิงได้ ซึ่งทำให้ขยะติดเชื้อที่ตกค้างหน้าเตาเผาถูกนำไปเผาทำลายให้หมดไป รวมถึงให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการออกกฎกระทรวง ประกาศตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพื่อให้สามารถหาแหล่งรับกำจัดขยะติดเชื้อและจัดทำยานพาหนะขนส่งขยะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้
น.ส.ไตรศุลี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อกังวลว่า หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาขยะติดเชื้อตกค้าง จะส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในระยะยาว เพราะแม้เวลานี้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จะคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่ทั่วประเทศยังจำเป็นต้องดำเนินมาตรการป้องกันโรคต่อไปซึ่งจะยังทำให้มีขยะติดเชื้อจำนวนมาก จึงมีข้อสั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ ข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด