คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ระบุว่า
สวัสดีค่ะทุกท่าน
ไม่ได้คุยกันหลายวัน
เพราะดิฉันได้เดินทางมาที่สหรัฐอเมริกา มาทำภารกิจหลายอย่าง ทั้งประชุมเรื่องวัคซีน mRNA รวมทั้งการหาช่องทางค้าขายให้ SMEs และสินค้าเกษตรไทย
เพราะเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวแล้ว กำลังซื้อจึงกลับมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อวานดิฉันได้พบและหารือกับท่าน ส.ว. แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.เชื้อชาติไทย แห่งรัฐอิลลินอยส์ ผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 2.5 ล้านโดส ให้ไทย ส.ว.แทมมี่ ได้แสดงความห่วงใยต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย และประสงค์จะช่วยผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ให้บริจาควัคซีนให้ประเทศไทยเพิ่มเติม จากที่ได้แสดงเจตจำนงบริจาคไปแล้ว 2.5 ล้านโดส ซึ่งได้ส่งมอบมาแล้วจำนวน 1.5 ล้านโดส
ซึ่ง ส.ว. แทมมี่ ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ที่เหลืออีก 1 ล้านโดส ให้ไทย แต่ขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่ส่งเอกสารตอบรับมา จึงทำให้ยังไม่สามารถส่งมอบอีก 1 ล้านโดส ที่เหลือให้ชาวไทยได้
นอกจากนี้ ส.ว.แทมมี่ ได้แสดงความเห็นว่า ถ้าประเทศไทยรีบดำเนินการเข้าโครงการโคแวกซ์ จะทำให้ไทยมีโอกาสในการได้รับจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อมาเร่งฉีดให้คนไทยได้มากขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุน
ดิฉันได้ใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ และท่าน ส.ว.แทมมี่ สำหรับวัคซีนจำนวน 2.5 ล้านโดส ที่ได้บริจาคให้ประเทศไทย และหวังในความร่วมมือในการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ชาวไทย
โดยดิฉันได้เสนอว่า "ท้องถิ่น" ของไทยหลายแห่ง มีความพร้อมและประสงค์จะซื้อวัคซีน mRNA ที่ FDA สหรัฐฯ รับรองอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อไปฉีดให้ประชาชนได้ทั่วถึงอย่างรวดเร็ว โดยท้องถิ่นมีเงินสะสมอยู่หลายแสนล้าน ดิฉันจึงขอให้ ส.ว.แทมมี่ ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย ซึ่งทาง ส.ว.แทมมี่ ได้ตอบรับที่จะประสานงานให้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะเปิดทางให้หรือไม่
สุดท้าย ดิฉันได้หยิบยกเรื่องการค้าการลงทุนขึ้นมาหารือกับ ส.ว.แทมมี่ ถึงลู่ทางที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของผู้ส่งออก และ SMEs ไทย โดยท่าน ส.ว.แทมมี่ มีแผนงานที่จะนำนักธุรกิจจากสหรัฐฯ มาประชุมกับภาคธุรกิจหลายประเทศในอาเซียนช่วงปลายปีนี้ แต่ไม่ได้มาไทย
ดิฉันจึงถือโอกาสเชิญท่าน ส.ว.ให้นำนักธุรกิจอเมริกันมาพบปะกับนักธุรกิจไทย เพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ หลัง COVID ในช่วงต้นปีหน้าอีกด้วย
สวัสดีค่ะทุกท่าน
ไม่ได้คุยกันหลายวัน
เพราะดิฉันได้เดินทางมาที่สหรัฐอเมริกา มาทำภารกิจหลายอย่าง ทั้งประชุมเรื่องวัคซีน mRNA รวมทั้งการหาช่องทางค้าขายให้ SMEs และสินค้าเกษตรไทย
เพราะเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวแล้ว กำลังซื้อจึงกลับมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อวานดิฉันได้พบและหารือกับท่าน ส.ว. แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.เชื้อชาติไทย แห่งรัฐอิลลินอยส์ ผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 2.5 ล้านโดส ให้ไทย ส.ว.แทมมี่ ได้แสดงความห่วงใยต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย และประสงค์จะช่วยผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ให้บริจาควัคซีนให้ประเทศไทยเพิ่มเติม จากที่ได้แสดงเจตจำนงบริจาคไปแล้ว 2.5 ล้านโดส ซึ่งได้ส่งมอบมาแล้วจำนวน 1.5 ล้านโดส
ซึ่ง ส.ว. แทมมี่ ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ที่เหลืออีก 1 ล้านโดส ให้ไทย แต่ขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่ส่งเอกสารตอบรับมา จึงทำให้ยังไม่สามารถส่งมอบอีก 1 ล้านโดส ที่เหลือให้ชาวไทยได้
นอกจากนี้ ส.ว.แทมมี่ ได้แสดงความเห็นว่า ถ้าประเทศไทยรีบดำเนินการเข้าโครงการโคแวกซ์ จะทำให้ไทยมีโอกาสในการได้รับจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อมาเร่งฉีดให้คนไทยได้มากขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุน
ดิฉันได้ใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ และท่าน ส.ว.แทมมี่ สำหรับวัคซีนจำนวน 2.5 ล้านโดส ที่ได้บริจาคให้ประเทศไทย และหวังในความร่วมมือในการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ชาวไทย
โดยดิฉันได้เสนอว่า "ท้องถิ่น" ของไทยหลายแห่ง มีความพร้อมและประสงค์จะซื้อวัคซีน mRNA ที่ FDA สหรัฐฯ รับรองอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อไปฉีดให้ประชาชนได้ทั่วถึงอย่างรวดเร็ว โดยท้องถิ่นมีเงินสะสมอยู่หลายแสนล้าน ดิฉันจึงขอให้ ส.ว.แทมมี่ ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย ซึ่งทาง ส.ว.แทมมี่ ได้ตอบรับที่จะประสานงานให้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะเปิดทางให้หรือไม่
สุดท้าย ดิฉันได้หยิบยกเรื่องการค้าการลงทุนขึ้นมาหารือกับ ส.ว.แทมมี่ ถึงลู่ทางที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของผู้ส่งออก และ SMEs ไทย โดยท่าน ส.ว.แทมมี่ มีแผนงานที่จะนำนักธุรกิจจากสหรัฐฯ มาประชุมกับภาคธุรกิจหลายประเทศในอาเซียนช่วงปลายปีนี้ แต่ไม่ได้มาไทย
ดิฉันจึงถือโอกาสเชิญท่าน ส.ว.ให้นำนักธุรกิจอเมริกันมาพบปะกับนักธุรกิจไทย เพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ หลัง COVID ในช่วงต้นปีหน้าอีกด้วย