วันนี้ (21 ก.ย.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.พร้อมเปิดให้บริการเดินรถตามแนวทางการผ่อนปรน และรองรับความต้องการเดินทางของผู้ใช้บริการ ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็วในเส้นทางสายใต้ สายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ การรถไฟฯ จึงพิจารณาเปิดเดินขบวนรถเพิ่มจำนวน 18 ขบวน
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนเวลา สถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในบางขบวนใหม่ และขบวนรถจะไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด โดยเริ่มเปิดให้บริการเดินรถ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
สายเหนือ เปิดเดินขบวนรถเพิ่ม จำนวน 4 ขบวน
– ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 7/8 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
สายใต้ เปิดเดินขบวนรถเพิ่ม จำนวน 8 ขบวน
– ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ขบวน
– ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23/24 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนดีเซลรางที่ 71/72 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
ขบวนรถที่ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง/ปลายทาง จำนวน 2 ขบวน
– ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – ชุมทางทุ่งสง – กรุงเทพ ปรับเป็น กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับการผ่อนคลายมาตรการของ ศบค. และรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์เพิ่มเติม 8 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 2 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ขบวน สายใต้ 2 ขบวน
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนเวลา สถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในบางขบวนใหม่ และขบวนรถจะไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด โดยเริ่มเปิดให้บริการเดินรถ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
สายเหนือ เปิดเดินขบวนรถเพิ่ม จำนวน 4 ขบวน
– ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 7/8 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
สายใต้ เปิดเดินขบวนรถเพิ่ม จำนวน 8 ขบวน
– ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ขบวน
– ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23/24 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
– ขบวนรถด่วนดีเซลรางที่ 71/72 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
ขบวนรถที่ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง/ปลายทาง จำนวน 2 ขบวน
– ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – ชุมทางทุ่งสง – กรุงเทพ ปรับเป็น กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับการผ่อนคลายมาตรการของ ศบค. และรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์เพิ่มเติม 8 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 2 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ขบวน สายใต้ 2 ขบวน