นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 451 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 409 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 42 ราย) รักษาหายเพิ่ม 390 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,727 ราย (กลุ่มสีเขียว 84.3% สีเหลือง 14.8% และสีแดง 0.9%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 459 ราย (รวมทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์) ปริมณฑล 98 ราย และต่างจังหวัด 5,170 ราย
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ สถานะเรือนจำยังคงที่ ไม่มีการระบาดเพิ่ม จึงมีเรือนจำสีแดงจำนวน 35 แห่ง และเรือนจำสีขาว 107 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 56,379 ราย หรือ 88.3% ของผู้ติดเชื้อสะสม 63,833 ราย เสียชีวิตสะสม 134 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน จากจำนวนเรือนจำสีแดงที่พบการระบาดทั้งสิ้น 35 แห่ง มีเพียง 5 แห่งเท่านั้น ที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาด คือ เรือนจำจังหวัดตราด เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช เรือนจำจังหวัดสระแก้ว และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อตรวจหาเชื้อ ให้ยาและการรักษา พร้อมเข้าควบคุมการระบาดอย่างเป็นระบบเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เรือนจำอีก 30 แห่ง สามารถลดการระบาด และจะเริ่มทยอยสิ้นสุดการระบาด หรือ EXIT ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือนจำจำนวน 8 แห่งที่จะ EXIT ได้ภายในสัปดาห์นี้