xs
xsm
sm
md
lg

กรมคุกเผย"เพนกวิน-ฟ้า"รักษาโควิดครบ 14 วัน เตรียมย้ายกลับเรือนจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงอาการป่วยโควิด-19 ของผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ในวันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ไม่มีอาการหอบเหนื่อย อ่อนเพลียเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ ขณะที่นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนายชาติชาย แกดำ รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย หายใจปกติ ไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีหอบเหนื่อยไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้

ส่วนนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย อาการปวดหูลดลง พบมีผื่นขนาดเล็กขึ้นตามร่างกาย แพทย์ประเมินอาการและจ่ายยารักษาตามอาการ

ทั้งนี้ จากการตรวจวัดสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนของผู้ต้องขังทุกคนมีผลเป็นปกติ โดยนายพริษฐ์ และนายพรหมศร ได้รับการรักษาโควิด–19 จนครบกำหนด 14 วันแล้ว อยู่ระหว่างการพักฟื้นเพื่อย้ายกลับไปคุมขังยังเรือนจำฯ ตามเดิม

ขณะเดียวกัน นายธวัชชัย กล่าวถึงกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อานนท์ นำภา โพสต์ข้อความว่ามีผู้ต้องขังห้องติดกันหมดสติและไม่หายใจต่อหน้าต่อตาว่า ผู้ต้องขังที่เกิดอาการชักเกร็ง หมดสติ และไม่หายใจดังกล่าวนั้น มีอายุ 46 ปี สถานบำบัดพิเศษกลางได้รับตัวไว้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ตรวจหาเชื้อโควิค-19 จำนวน 3 ครั้ง ผลเป็นลบ ทั้งนี้ ในการสอบประวัติตอนแรกรับ ผู้ต้องขังไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัว มาทราบภายหลังจากเกิดอาการแล้วว่าเคยมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง จากกรณีดังกล่าวขอเรียนว่า ผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกคนจะต้องตอบการสอบถามประวัติส่วนตัว แจ้งโรคประจำตัว เพื่อเก็บบันทึกข้อมูล ซึ่งทัณฑสถานฯ มีพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานพยาบาลในการตรวจร่างกาย ดูแลสุขภาพเบื้องต้นตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ และมีอาสาสมัครเรือนจำ (อสรจ.) ที่มีความรู้ด้านการพยาบาลเบื้องต้นคอยดูแล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุฉุกเฉิน ที่ทางทัณฑสถานฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังและทันท่วงที โดยเร่งนำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างเร่งด่วน ขณะนี้ผู้ต้องขังดังกล่าวมีอาการทุเลา สามารถหายใจได้เอง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และพยาบาลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิด