กรมคุกยันดูแลสุขภาพผู้ต้องขังตามมาตรฐาน มียา-เวชภัณฑ์เพียงพอ

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ รายงานสถานการณ์และการควบคุมดูแลผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายชาติชาย แกดำ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นั้น ในวันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า นายพริษฐ์ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจไม่มีอาการหอบเหนื่อย และนายพรหมศร รู้สึกตัวดี ยิ้มแย้ม พูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ การตรวจวัดสัญญาณชีพทั้งสองราย เป็นปกติ

ในส่วนของนายภาณุพงศ์ พบว่า รู้สึกตัวดี สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย หายใจปกติ ไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้

นายจตุภัทร์ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ อ่อนเพลียเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ มีอาการปวดหู หูอื้อ แพทย์เข้าประเมินอาการ ล่าสุด อาการปวดหูลดลงแล้ว

ด้านนายชาติชาย รู้สึกตัวดี พูดคุยถามตอบรู้เรื่อง พอช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจเป็นปกติ ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย การตรวจวัดสัญญาณชีพของทั้งสามราย เป็นปกติ

นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมกรณีการรับตัวกลุ่มแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 คน ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี ว่า ผู้ต้องขังทั้งหมดได้ถูกนำไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยทั้งหมดได้รับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในสถานควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ตั้งแต่ที่ศาล เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อเข้าสู่เรือนจำ โดยผู้ต้องขังทั้ง 3 ราย ได้ลงนามยินยอมให้ทำการตรวจ และปรากฏผลตรวจเป็นลบทั้ง 3 ราย ทั้งนี้ ในส่วนของนายเทิดภูมิ ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เวลา 18.30 น. เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยจากการผ่าตัดอยู่ก่อนแล้ว

ในประเด็นที่มารดาของนายพริษฐ์ ระบุว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีปัญหาการขาดแคลนยารักษาโรคนั้น นายธวัชชัย ชี้แจงว่า กรณีนายพริษฐ์ มีโรคประจำตัว คือโรคหอบ แพทย์จ่ายยาพ่น Ventolin Aerobidol Inhaler ให้ แต่ผู้ป่วยต้องการใช้ยาพ่นที่เคยใช้เป็นประจำ ชื่อ Ventolin Evohaler ซึ่งเป็นยาเดียวกัน แต่ทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่มีของบริษัทนี้ เจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่าเป็นยาตัวเดียวกันกับที่แพทย์จ่ายให้ แต่ผู้ป่วยยืนยันจะขอใช้ยาตัวเดิม จึงให้มารดาจัดหามาให้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มียาและเวชภัณฑ์ครอบคลุมตามมาตรฐานของโรงพยาบาลในการดูแลรักษา รวมทั้งมีระบบการสำรองยาและเวชภัณฑ์อย่างเพียงพอ ตรงตามมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นการเผยแพร่หลักฐานทางการแพทย์ หรือภาพของผู้ต้องขัง ว่า กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ หากยังไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ต้องขัง เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิ ซึ่งในปัจจุบันผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวไม่ยินยอมให้เปิดเผย จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการเผยแพร่เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงด้วยภาพและเอกสารข้อมูลต่างๆ รวมทั้งต้องดำเนินการตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการสัมภาษณ์ การถ่ายภาพผู้ต้องขัง และการถ่ายภาพยนตร์หรือวีดิทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังและเรือนจำ พ.ศ. 2564 อย่างเคร่งครัดต่อไป