นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ประชุมติดตามผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ของกระทรวงแรงงาน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม โดย พล.อ.ประวิตร ห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งกระจายวัคซีนในแรงงานกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด ให้การฉีดวัคซีนโควิด -19 เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมดูแลผู้ใช้แรงงานให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกมิติ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การบริหารวัคซีน ให้เร่งดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มแรงงานให้ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สีแดงเข้ม สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนแคมป์คนงาน ขอให้เร่งดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนด
มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33, 39 และ 40 ขอให้ดำเนินการตามกำหนดระยะเวลา เพื่อช่วยให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว
ขณะเดียวกัน สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มแรงงาน ป้องกัน ดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 รวมทั้งบุคลากรของกระทรวงแรงงาน
สำหรับโครงการ Factory Sandbox ให้บริหารจัดการอย่างครบวงจรโดยสำรวจความสมัครใจของสถานประกอบการ ตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ติดเชื้อให้เร่งดูแลและช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามมาตรการด้านสาธารณสุข ในส่วนของแรงงานต่างด้าว ให้กำกับดูแล บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและองค์การระหว่างประเทศ และต้องกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด หากพบมีพฤติการณ์ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญาทุกราย รวมทั้งยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นหลักสูตรในการพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การผลิตสื่อโฆษณาและหนังสั้นด้วยสมาร์ทโฟน เทคนิคการสร้างร้านค้าและขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น
นายสุชาติ ย้ำว่า ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตน ม.33, 39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ครอบคลุมทั่วถึง รวมทั้งขอให้มีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวข้ามสถานการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกัน