นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอประเมินสถานการณ์ หลังจากที่ ศบค. ประกาศเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด พร้อมขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ต่ออีก 1 เดือน และผ่อนคลายให้ร้านอาหารในห้างเปิดได้ เฉพาะบริการเดลิเวอรีเท่านั้น ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร จึงจะนำมาหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เบื้องต้นกำหนดการประชุมวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า จะมีการปรับเป้าตัวเลขเศรษฐกิจหรือไม่ จากเดิมในเดือนกรกฎาคม คาดการณ์ว่า ปี 2564 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัว 0-1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับมาก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5-2%
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจับตาในเดือนสิงหาคม ยังเป็นเรื่องการกระจายการฉีดวัคซีน ว่า จะกระจายได้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งเร่งแยกผู้ป่วยและคนปกติออกจากกันให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนที่เป็นตัวปัญหา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลดลงเลย ขณะที่ฝั่งยุโรป สหรัฐฯ มีการกระจายการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ทำให้ปัญหาการติดเชื้อในประเทศไม่ค่อยมี ถึงติดก็เป็นกลุ่มสีเขียว รักษาได้ไม่ยาก ไม่ต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษามาก และขณะนี้ต้องมาดูว่า ต่อไป Hospitel จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองหรือไม่ ส่วนสีเขียวให้ Home Isolation อยู่ที่บ้าน เพื่อสงวนเตียงให้กับคนที่มีอาการมาก ซึ่งผลกระทบขณะนี้หากไม่สามารถควบคุมผู้ติดเชื้อให้ต่ำกว่า 5,000 รายต่อวันไม่ได้ จนถึงเดือนกันยายน เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะบอบช้ำหนักมากอย่างนแน่นอน