นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล งดเดินทางออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. และให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. ขสมก. จึงจัดแผนการเดินรถโดยสาร (รถเมล์) ให้สอดคล้องกับมติที่ประชุม ศบค. ดังนี้
ปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการรถโดยสารจากเวลาปกติ เป็นให้บริการเวลา 05.00-21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) ตั้งแต่วันที่ 12-25 กรกฎาคม 2564 เพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (05.00-08.00 น.) และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็นถึงเวลาก่อนรถโดยสารหยุดให้บริการ (16.00-21.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5-10 นาที หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชน
ให้บริการรถเมล์วันธรรมดา 18,000-20,000 เที่ยว ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ ให้บริการรถเมล์ 16,000 เที่ยว หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา และปล่อยรถเมล์คันสุดท้ายออกจากท่าปลายทางเวลา 20.00 น. เพื่อให้พนักงานสามารถนำรถกลับเข้าอู่จอดรถได้ทันเวลา 21.00 น. โดยปรับเพิ่มความถี่ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้าย ให้มีระยะห่างกัน 5-10 นาที ซึ่งรถเมล์ 3 คันสุดท้าย จะติดป้ายข้อความบ่งชี้ บริเวณหน้ารถเมล์ดังนี้ เหลือรถ 2 คันสุดท้าย, เหลือรถ 1 คันสุดท้าย และ รถคันสุดท้าย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการ นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถเมล์คันถัดไป ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการเตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลา 18.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถเมล์ช่วงเวลาก่อนรถเมล์หยุดให้บริการ (20.00-21.00 น.) ทำให้ดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถเมล์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ