xs
xsm
sm
md
lg

'หมอยง'ให้ความรู้วัคซีนโควิด ชี้อิสราเอล-อังกฤษ ฉีดวัคซีนมากยังระบาดได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า โควิด 19 วัคซีน ความรู้เกี่ยวกับโควิด 19 วัคซีน (ต่อ)

11 mRNA วัคซีนใช้หลักการ เอาสวนรหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด- 19 ที่เป็น Messenger RNA ในการสร้างโปรตีนส่วนน้ำแหลม spike มาห่อหุ้มให้เป็น lipid nanoparticles แล้วฉีดเข้าไปในร่างกาย อาร์เอ็นเอส่วนนี้จะไปเข้าสู่เซลล์แล้วเข้าสู่กระบวนการ สร้างโปรตีนตามรหัสที่กำหนด ออกมาเป็นแอนติเจนกระตุ้นสร้างแอนติบอดี เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่บังคับให้เซลล์มนุษย์สร้างโปรตีนตามที่กำหนด

12 virus Vector vaccine เป็นวัคซีนที่ใช้ตัวไวรัสไม่ก่อโรค และใส่รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด 19 เข้าไปแล้วให้ตัวไวรัสนั้นติดเชื้อเข้าสู่เซลล์ เพื่อให้รหัสพันธุกรรมนั้นผ่านกระบวนการสร้าง Messenger RNA แล้วจึงสร้างโปรตีนหนามแหลมออกมานอกเซลล์ เป็นแอนติเจนให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้

13 วัคซีนชนิดโปรตีนsubunit เป็นการสร้างโปรตีนให้เหมือนกับหนามแหลม spike โดยกำหนดให้สิ่งมีชีวิตสร้างขึ้น เช่นใช้เซลล์เพราะเลี้ยงของแมลง คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี ที่ให้ยีสร้างให้ แต่เนื่องจากโปรตีนหนามแหลม spike มีขนาดใหญ่กว่า โปรตีนเปลือกผิวของไวรัสตับอักเสบบีมาก การสร้างขึ้นมาให้คงรูปร่าง จึงต้องใช้เซลล์ชั้นสูงขึ้น และเมื่อได้แล้วสิ่งที่สำคัญมากของวัคซีนชนิดนี้คือการใช้สารเพิ่มกระตุ้นภูมิต้านทาน ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีสารของตัวเองที่ใช้กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานขนาดสูงได้ นวัตกรรมที่สำคัญจะอยู่ตรงที่การใช้สารเพิ่มกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย วัคซีนนี้ที่ผ่านระยะที่ 3 และรอการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา คือ Novavax และวัคซีนที่มีการใช้ในประเทศจีนในภาวะฉุกเฉินแล้วคือ ของ Anhui Zhifei Longcom Biopharmaceutical Co. Ltd แต่ต้องให้ 3 ครั้งคล้ายไวรัสตับอักเสบบี

14 วัคซีนเชื้อตาย ใช้วิธีการเพาะเลี้ยงไวรัสบน verocell ที่เป็นเซลล์ชนิดเดียวกับการเพาะเลี้ยงไวรัสอีกหลายชนิดที่นำมาทำวัคซีน แล้วไวรัสนั้นมาทำร้ายด้วยสารเคมี นำมาทำให้บริสุทธิ์ ให้จับกับสารเพิ่มภูมิต้านทานเป็นเกลือของอลูมิเนียม แล้วนำมาประกอบเป็นวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีนเชื้อตายที่ใช้ในอดีต

15 ข้อดีข้อเสียของวัคซีนชนิดต่างๆ mRNA กระตุ้นภูมิได้สูงสุด มากกว่าไวรัส vector
วัคซีนชนิดเชื้อตายกระตุ้นภูมิต้านทาน ได้ต่ำกว่า ภูมิที่เกิดขึ้นจะเท่าเทียมกับการติดเชื้อ 1 ครั้งเท่านั้น

16 อาการข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ วัคซีนชนิด mRNA และไวรัส Vector มีอาการข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตามตัว เจ็บบริเวณที่ฉีด มากกว่าวัคซีนชนิดเชื้อตาย อาการข้างเคียงรุนแรง ในการทำให้เกิดลิ่มเลือด ของไวรัส Vector โอกาสเกิดได้ 1 ในแสน ทำนองเดียวกัน mRNA ก็มีส่วนสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเลือด TTP และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบไหนเด็กวัยรุ่น

17 วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ใช้สายพันธุ์ของไวรัส ดั้งเดิม ตั้งแต่สายพันธุ์อู่ฮั่น และในปัจจุบันไวรัสได้มีการวิวัฒนาการ ปรับเปลี่ยนมาโดยตลอด จึงทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบันลดลง

18 การกลายพันธุ์ของไวรัส ถ้ายิ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก มีการติดเชื้อมากมาย โอกาสก็จะเกิดการกลายพันธุ์ได้ง่าย แต่ถ้าไวรัสนี้สามารถควบคุมได้ และมีการระบาดเป็นเพียงแบบไข้หวัดใหญ่ อัตราการกลายพันธุ์ของไวรัสนี้ ช้ากว่าไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น เมื่อฉีดวัคซีนครบแล้ว ในปีต่อไปก็คงจะต้องมีการฉีดเพิ่มขึ้นตามสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลง แต่ตามหลักการสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้จะช้ากว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ในอนาคตจึงต้องมีการฉีดในปีแรกๆและปีต่อๆไปอาจจะห่างออก ถ้าสามารถควบคุมโรคได้ไม่ให้มีการระบาดการกลายพันธุ์ก็จะเกิดขึ้นช้า

19 อย่างที่กล่าวมาแล้วโรคนี้ ประชากรทั้งโลกยังไม่มีภูมิต้านทานมาก่อน จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยวัคซีนในการกระตุ้นภูมิต้านทานให้เกิดขึ้นในประชากรหมู่มาก และผู้ที่มีภูมิต้านทานแล้วก็สามารถยับยั้งการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว เป็นการลดความรุนแรงของโรคและลดการแพร่กระจายของโรค และจะทำให้ในที่สุด โรคนี้ก็ยังอยู่กับเรา แต่จะไปเป็นมากในเด็ก ซึ่งมีอาการน้อย กว่าผู้ใหญ่อย่างมาก ก็จะเป็นโรคทางเดินหายใจอีกรอบหนึ่งในอนาคต

20 ในปัจจุบันทราบกันดีแล้วว่าไม่ว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้อใด มาตรการในการควบคุมป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย การดูแลสุขอนามัยล้างมือ กำหนดระยะห่างของสังคม ยังต้องทำต่อไป ดังเห็นได้ในบทเรียนของประเทศที่ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากแล้ว ก็ยังสามารถทำให้เกิดโรคระบาดได้ไม่ว่าในอิสราเอลหรือในอังกฤษ