นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลคนไทยทุกคน ทุกสิทธิ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ให้แนวทางชัดเจนแก่ทุกส่วนราชการ โดยให้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทุกกรณี ทั้งให้ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด คัดกรองก่อนผ่าตัด การตรวจเชิงรุกตามดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งหากผลตรวจไม่พบเชื้อสามารถตรวจซ้ำได้ฟรีหลังกักตัวครบ 14 วัน แต่หากผลตรวจมีการพบเชื้อ จะได้รับการดูแลเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน Hospitel หรือโรงพยาบาลสนาม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากรัฐบาลจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนประชาชน
นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่อาจเกิดการฉีดวัคซีนตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยคุ้มครองตั้งแต่วัคซีนเข็มแรกที่ฉีดให้คนไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ให้ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 หากมีอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งแม้พบในสัดส่วนที่น้อย รัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกกรณี ตามหลักเกณฑ์เงินจ่ายเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทย ได้ผ่านพิจารณาอย่างรอบคอบของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งวัคซีนโควิด-19 ทุกชนิดที่รัฐบาลจัดหาให้ประชาชน มีศักยภาพ สามารถลดการเจ็บป่วยที่รุนแรง ลดการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตด้วย ซึ่งจะช่วยหยุดการระบาดของโควิด-19 เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และเศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง