นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ในสถานการณ์การระบาโรคโควิด-19 ที่มีการปิดสถานศึกษาในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ว่า ตนเข้าใจดีว่าการจัดการเรียนการสอนในช่วงโควิด-19 มีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะนักเรียนมีทั้งความพร้อมและไม่พร้อมด้านอุปกรณ์การเรียน อีกทั้งการเรียนออนไลน์อาจทำให้เด็กมีเวลาว่างมากจนเกินไป ดังนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่าจะมีวิธีการจัดสอบปลายภาคเรียนได้อย่างไรบ้าง ซึ่งรวมไปถึงการที่ตนได้เซ็นประกาศยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ระดับ ป.6 และ ม.3 เนื่องจากการเรียนของเด็กในห้องเรียนไม่เต็มที่อย่างแน่นอน จึงไม่สามารถวัดผลอะไรได้ ซึ่งตนเข้าใจดีว่าการเรียนการสอนในช่วงโควิดจะต้องมีความยืดหยุ่น
นายณัฏฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้หลายฝ่ายเห็นว่ารัฐบาลคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศได้ดีพอสมควร เพราะมีการติดเชื้อวันละ 150-200 ราย ส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งสามารถสอบสวนโรคได้ จึงอยากเสนอให้มีการเปิดเรียนเฉพาะเด็กระดับปฐมวัย ไปจนถึงประถมศึกษาก่อน เนื่องจากเด็กเล็กกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน และไม่สะดวกในการเรียนออนไลน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งตนเตรียมจะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดเล็ก) ให้เปิดเรียนเฉพาะเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวก่อน โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการตัดสินใจด้วย แต่ขณะนี้ยังยืนยันที่จะเปิดเรียนตามกำหนดเดิมคือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม จะต้องประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้านก่อน เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียน
ทั้งนี้ เมื่อสามารถเปิดเรียนในสถานศึกษาตามปกติ ได้ขอให้สถานศึกษาทุกแห่งปฏิบัติการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การสลับวันมาเรียน และการติดตั้งเจลล้างมือ