นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (29 ธ.ค.63) พบว่ามีการเดินทางแล้ว 25,000 คน แบ่งเป็นขาไปจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด 1,017 เที่ยววิ่ง ขาเข้าจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ 1,900 กว่าเที่ยว คาดว่าวันนี้จะมีการเดินทาง 70,000-80,000 คน
ทั้งนี้ จัดรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) รองรับการเดินทางผู้โดยสาร 100,000 คน และสามารถส่งผู้โดยสารกลับต่างจังหวัดได้เที่ยวสุดท้ายเวลา 23.30 น. ขณะที่คาดการณ์การเดินทางในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีการเดินทางจำนวนมาก จึงได้จัดรถโดยสารไว้ที่ 5,000 กว่าเที่ยววิ่ง รองรับการเดินทางได้สูงสุด 120,000 คน ขณะที่เมื่อเทียบกับปีใหม่ 2563 ช่วงวันเดินทางที่มีผู้โดยสารใช้จำนวนมาก รองรับเดินทางได้ถึง 160,000 คน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รอบใหม่ พบว่าตั้งแต่วันที่ 1-29 ธันวาคม ผู้โดยสารมีการนำตั๋วโดยสารมาคืนแล้วคิดเป็นวงเงิน 4,600,000 บาท แบ่งเป็น ภาคเหนือ 1,400,000 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,900,000 บาท และภาคใต้ 1,200,000 บาท จากในเดือนธันวาคม ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 189,000,000 บาท แต่ปัจจุบันมีการคืนค่าตั๋วโดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่แล้วคิดเป็นร้อยละ 2.5 ขณะเดียวกัน พบว่าผู้โดยสารเดินทางลดลงจากเดิมก่อนที่มีโควิด-19 กลับมาระบาดใหม่ ผู้โดยสารใช้บริการ 50,000-60,000 คนต่อวัน ปัจจุบันลดเหลือ 30,000-40,000 คนต่อวันเท่านั้น ทำให้ผู้โดยสารลดลง 20,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ บขส. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการที่สถานีขนส่ง และบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง รวมทั้งให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ หรือแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้งที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมทั้งได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร สน.บางซื่อ สน.ตลิ่งชัน และ สน.ทองหล่อ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกการจราจรโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 5 แห่ง
รวมทั้งตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจรถโดยสารบนทางหลวงสายหลัก และมีการได้เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็กรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ติดตั้งระบบ GPS ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารในการเดินทางด้วย
