วันนี้ (18 ธ.ค.63) เวลา 18.37 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินออกจากห้องโถงมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ไปยังบริเวณลานจอดรถมัสยิดกลางปัตตานี ทอดพระเนตรการสาธิตการทอผ้าจวนตานี จากกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านตรัง จ.ปัตตานี ที่ได้สนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่ทรงส่งเสริมให้ราษฎรมีอาชีพเสริมด้วยการทอผ้า จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการสร้างโรงทอผ้า และพระราชทานกี่ทอผ้าจำนวน 10 กี่ ให้แก่ กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านตรัง เมื่อปี พ.ศ.2526
จากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ OTOP จากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ได้จัดนิทรรศการ สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย โดยได้นำผ้าจวนตานี อันเป็นผ้าที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์การใช้เครื่องนุ่งห่มของชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าง จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และจังหวัดสงขลาบางอำเภอ มาจัดแสดง รวมถึงนำสินค้าโอท็อป อาทิ ข้าวยำสำเร็จรูป น้ำบูดู เกลือปัตตานี ลูกหยีระยัง และผ้าละหมาด ตำบลกระหวะ อันเป็นผ้าที่ชาวไทยมุสลิมใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ มาจำหน่าย
จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมการแพทย์ทหารบก สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และโรงพยาบาลในพื้นที่ มาออกหน่วยตรวจรักษาโรค ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว โดยวันนี้ ได้นำเครื่องมือพิเศษที่เป็นเครื่องมือเฉพาะทาง ซึ่งได้รับพระราชทาน มาใช้ในการตรวจรักษาประชาชน อาทิ เครื่องตรวจจอประสาทตา เครื่องตรวจการทำงานของหัวใจ เครื่องอัลตราซาวด์ เป็นต้น โดยมีแพทย์เฉพาะทางมาให้บริการตรวจรักษาประชาชน อาทิ อายุรแพทย์โรคหัวใจ อายุรแพทย์โรคไต จักษุแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์ กระดูกและข้อ โดยในวันนี้ มีผู้มาเข้ารับบริการตรวจรักษาทั้งสิ้นจำนวน 68 ราย
การนี้ ทรงรับคนไข้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์จำนวน 6 ราย พร้อมพระราชทานชุดยาและเงินค่าพาหนะในการเดินทางไปเข้ารับการรักษา ยังความปลาบปลื้มสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ป่วยและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ และก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ไปสอบถามอาการป่วยของ นางสาวศิริภัสสร ทองจันทร์ อายุ 15 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนราธิวาส ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วยความใส่พระราชหฤทัย และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ทั้งนี้ นางสาวศิริภัสสร ทองจันทร์ ถูกคนร้ายลอบยิงทั้งครอบครัว เมื่อปี 2560 สูญเสียทั้งบิดาและมารดา มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่รอดชีวิต แต่ถูกยิงที่บริเวณหัวเข่า ส่งผลให้ขาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่กับป้า ที่อำเภอบาเจาะ จ.นราธิวาส นำมาซึ่งความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ OTOP จากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ได้จัดนิทรรศการ สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย โดยได้นำผ้าจวนตานี อันเป็นผ้าที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์การใช้เครื่องนุ่งห่มของชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าง จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และจังหวัดสงขลาบางอำเภอ มาจัดแสดง รวมถึงนำสินค้าโอท็อป อาทิ ข้าวยำสำเร็จรูป น้ำบูดู เกลือปัตตานี ลูกหยีระยัง และผ้าละหมาด ตำบลกระหวะ อันเป็นผ้าที่ชาวไทยมุสลิมใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ มาจำหน่าย
จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมการแพทย์ทหารบก สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และโรงพยาบาลในพื้นที่ มาออกหน่วยตรวจรักษาโรค ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว โดยวันนี้ ได้นำเครื่องมือพิเศษที่เป็นเครื่องมือเฉพาะทาง ซึ่งได้รับพระราชทาน มาใช้ในการตรวจรักษาประชาชน อาทิ เครื่องตรวจจอประสาทตา เครื่องตรวจการทำงานของหัวใจ เครื่องอัลตราซาวด์ เป็นต้น โดยมีแพทย์เฉพาะทางมาให้บริการตรวจรักษาประชาชน อาทิ อายุรแพทย์โรคหัวใจ อายุรแพทย์โรคไต จักษุแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์ กระดูกและข้อ โดยในวันนี้ มีผู้มาเข้ารับบริการตรวจรักษาทั้งสิ้นจำนวน 68 ราย
การนี้ ทรงรับคนไข้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์จำนวน 6 ราย พร้อมพระราชทานชุดยาและเงินค่าพาหนะในการเดินทางไปเข้ารับการรักษา ยังความปลาบปลื้มสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ป่วยและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ และก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ไปสอบถามอาการป่วยของ นางสาวศิริภัสสร ทองจันทร์ อายุ 15 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนราธิวาส ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วยความใส่พระราชหฤทัย และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ทั้งนี้ นางสาวศิริภัสสร ทองจันทร์ ถูกคนร้ายลอบยิงทั้งครอบครัว เมื่อปี 2560 สูญเสียทั้งบิดาและมารดา มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่รอดชีวิต แต่ถูกยิงที่บริเวณหัวเข่า ส่งผลให้ขาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่กับป้า ที่อำเภอบาเจาะ จ.นราธิวาส นำมาซึ่งความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้