นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก paisal puechmongkol ระบุว่า ลวงโลกหลอกเด็กอีกแล้ว คราวนี้กาเหว่าลวงโลกว่า
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ไม่มีสิทธิ์ในการครองราชสมบัติ เพราะตามกฎมณเฑียรบาล ราชบัลลังก์ต้องเป็นของราชสกุลบริพัตร
การโกหกครั้งนี้ดูถูกเหยียดหยาม เด็กๆ นักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนไทยมาก คงคิดว่าไม่มีใครรู้ประวัติศาสตร์และกฎมณเฑียรบาล
ความจริงเป็นอย่างนี้
1.การสืบสันตติวงศ์ ของพระบรมราชจักรีวงศ์นั้นกฎมณเฑียรบาลบัญญัติว่า ต้องเป็นลูกชายของพระมหากษัตริย์กับพระอัครมเหสี
2.พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 มีพระราชโอรสกับพระอัครมเหสี 4 พระองค์คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯสยามมกุฎราชกุมาร, พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6, พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7และสมเด็จพระบรมราชชนกฯ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์
3.เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 สวรรคต และไม่มีพระรัชทายาท ราชสมบัติจึงตกได้แก่ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ซึ่งตอนแรก พระองค์ท่านไม่ต้องการครองราชย์ เพราะยังทรงพระเยาว์มาก จึงมี"พระราชปรารภ" เสนอให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ ต้นตระกูลบริพัตร ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระมเหสีลำดับถัดมาขึ้นครองราชย์
แต่สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นั้น ทรงเห็นว่าราชบัลลังก์ไม่ใช่สิทธิ์ของพระองค์จึงทรงปฏิเสธ
ดังนั้นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 จึงขึ้นครองสิริราชสมบัติ ซึ่งเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล
4.ครั้นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ และไม่มีพระรัชทายาท ดังนั้นราชบัลลังก์จึงตกเป็นสิทธิแด่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์ฯ
แต่พระองค์สิ้นพระชนม์ไปก่อน ดังนั้นราชสมบัติจึงตกได้แก่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8ที่9และสืบสันตติวงศ์มาจนถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ตามกฎมณเฑียรบาล
ราชสกุลบริพัตรจึงอยู่นอกสายสืบสันตติวงศ์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว
ทั้งนี้โดยความเห็นชอบของรัฐสภาแต่ละยุค
ไม่มีใครเห็นเป็นปัญหาอะไร ยกเว้นพวกกาเหว่าจอมลวงโลกนี่แหละ จึงขอนำรายงานของเสนาบดีกระทรวงวัง แสดงลําดับการสืบสันตติวงศ์ตามกฎมณเฑียรบาลมาปิดปากเน่าของอาจมลวงโลกเสียเลย
