ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ชี้แจงว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ครม. เห็นชอบจ่ายเงินส่วนต่างยางพารา ให้ผู้ถือบัตรสีเขียว และสีชมพู เริ่ม 11 ธ.ค. นี้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ได้มีการเห็นชอบการจ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ถือบัตรสีเขียว และที่ถือบัตรสีชมพู ซึ่งผู้ถือบัตรสีเขียวมีประมาณ 9.6 แสนราย ส่วนผู้ถือบัตรสีชมพู จะมีประมาณ 3.4 แสนราย รวมแล้วจะมีเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่จะได้รับเงินส่วนต่างประมาณ 1.3 ล้านรายทั่วประเทศจากทุกภาค
ส่วนเรื่องของการจ่ายเงินส่วนต่างนั้น จะแบ่งเป็น 6 งวด เดือนละ 1 งวด โดยจะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกในวันที่ 11 ธันวาคมนี้
โดยเงินส่วนต่างที่ได้มีการคำนวนออกมาสำหรับงวดแรก มีดังนี้
- ยางแผ่นดิบ ไม่มีเงินส่วนต่าง เพราะขณะนี้ราคายางแผ่นดิบทะลุเลย 60 บาทไปแล้ว โดยราคาที่เป็นทางการเมื่อวานนี้ ยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 65 บาท
- น้ำยางข้น จะมีเงินส่วนต่าง กิโลกรัมละ 4.14 บาท
- ยางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 3.19 บาท
สำหรับภาพรวมทั้งหมดของเงินส่วนต่างงวดแรกรวม 1,789 ล้านบาท ซึ่งราคายางในปัจจุบันถือว่าดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เพราะปีที่ผ่านมา ราคายางแผ่นดิบโดยเฉลี่ย กิโลกรัมละ 40 บาท แต่ช่วงเวลานี้มีราคาทรงตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 กว่าบาท ส่วนราคาน้ำยาง กิโลกรัมละ 55-57 บาท ยางก้อนถ้วยราคาวานนี้ กิโลกรัมละ 21.25 บาท บางช่วงมีราคา 22-23 บาท ซึ่งถือว่าราคายางในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่ www.prd.go.th หรือโทร. 02-618-2323
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ได้มีการเห็นชอบการจ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ถือบัตรสีเขียว และที่ถือบัตรสีชมพู ซึ่งผู้ถือบัตรสีเขียวมีประมาณ 9.6 แสนราย ส่วนผู้ถือบัตรสีชมพู จะมีประมาณ 3.4 แสนราย รวมแล้วจะมีเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่จะได้รับเงินส่วนต่างประมาณ 1.3 ล้านรายทั่วประเทศจากทุกภาค
ส่วนเรื่องของการจ่ายเงินส่วนต่างนั้น จะแบ่งเป็น 6 งวด เดือนละ 1 งวด โดยจะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกในวันที่ 11 ธันวาคมนี้
โดยเงินส่วนต่างที่ได้มีการคำนวนออกมาสำหรับงวดแรก มีดังนี้
- ยางแผ่นดิบ ไม่มีเงินส่วนต่าง เพราะขณะนี้ราคายางแผ่นดิบทะลุเลย 60 บาทไปแล้ว โดยราคาที่เป็นทางการเมื่อวานนี้ ยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 65 บาท
- น้ำยางข้น จะมีเงินส่วนต่าง กิโลกรัมละ 4.14 บาท
- ยางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 3.19 บาท
สำหรับภาพรวมทั้งหมดของเงินส่วนต่างงวดแรกรวม 1,789 ล้านบาท ซึ่งราคายางในปัจจุบันถือว่าดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เพราะปีที่ผ่านมา ราคายางแผ่นดิบโดยเฉลี่ย กิโลกรัมละ 40 บาท แต่ช่วงเวลานี้มีราคาทรงตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 กว่าบาท ส่วนราคาน้ำยาง กิโลกรัมละ 55-57 บาท ยางก้อนถ้วยราคาวานนี้ กิโลกรัมละ 21.25 บาท บางช่วงมีราคา 22-23 บาท ซึ่งถือว่าราคายางในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่ www.prd.go.th หรือโทร. 02-618-2323
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี