ทีมสอบสวนโรคสาธารณสุขอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 2 ของอำเภอแม่สอด โดยเป็นคนไทยพลัดถิ่น สัญชาติเมียนมา อายุ 70 ปี พักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา หมู่ที่ 7 บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด ด้วยอาการโคม่า ล่าสุด ผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการแจ้งเหตุเพื่อขอให้ทีมกู้ชีพของโรงพยาบาลเอกชนใน อ.แม่สอด ไปรับตัวเพื่อมาตรวจรักษาอาการป่วยนั้น ทั้งญาติและผู้ป่วยให้ข้อมูลเท็จ โดยระบุว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่เคยข้ามแนวชายแดน และไม่มีประวัติเสี่ยง ทำให้ทีมกู้ชีพไม่ได้สวมชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือชุด PPE และในระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง ทีมกู้ชีพจึงส่งตัวผู้ป่วยต่อไปที่โรงพยาบาลแม่สอด และผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
จากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายนี้เคยลักลอบเดินทางข้ามไปฝั่งเมียนมาเพื่อหาภรรยา หลังจากกลับมาก็มีอาการป่วย และไปหาซื้อยามากินเอง ไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล จนอาการหนัก ญาติจึงแจ้งกู้ชีพให้มานำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ผลจากการให้ข้อมูลเท็จทำให้ทั้งทีมกู้ชีพของโรงพยาบาลเอกชน 4 คน และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแม่สอดอีก 7 คน ต้องถูกสั่งกักตัว พร้อมส่งไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง
กระทรวงสาธารณสุข รายงานเพิ่มเติมว่า ชายชาวเมียนมา อายุ 70 ปี ลักลอบเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 29 พฤศจิกายน ทางช่องทางธรรมชาติ เริ่มมีอาการป่วย มาพักกับลูกเขย
วันที่ 2 ธันวาคม ลูกสาวเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปดูแลพ่อ
วันที่ 4 ธันวาคม มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงเรียกรถโรงพยาบาลเอกชนมารับ
สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ของอำเภอแม่สอด คือผู้ป่วยชายชาวเมียนมา อายุ 43 ปี พักอาศัยอยู่ใน อ.แม่สอด ทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์