พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารนำเสนอเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ของหน่วยทหาร และอ้างว่ามีการจ้างบริษัทเอกชนเพื่อทำการอย่างใดอย่างหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ ว่า กองทัพบกได้ตรวจสอบกับส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ได้มีการว่าจ้างบริษัทเอกชนไปดำเนินการปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ตามที่มีความพยายามกล่าวหา โดยใช้การตีความจากเอกสารที่ถูกนำมาเผยแพร่ดังกล่าว เพราะวัตถุประสงค์ในการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียของกองทัพบกมุ่งเน้นการสื่อสารสร้างการรับรู้ อย่างสร้างสรรค์ เท่าทันสถานการณ์
ส่วนภาพและข้อมูลในสื่อโซเชียลที่ปรากฏ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการอบรมกำลังพลของหน่วย (พล.ร.2 รอ.) ในการใช้แอปพลิเคชันทวิตเตอร์ สนับสนุนงานประชาสัมพันธ์ของหน่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนที่มีทักษะความรู้ด้านการตลาดดิจิทัล และในการใช้สื่อออนไลน์ที่ทันสมัย มาเป็นผู้ให้คำแนะนำการใช้งาน โดยไม่มีการว่าจ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้กระจายข้อมูลเชิงบวกก็เป็น Free software ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น Tweet Broadcast และ Free Messenger เป็นต้น
สำหรับผังโครงสร้างที่ปรากฏ ก็เป็นการจัดหน่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อทดลองกระจายข้อมูลเชิงบวกให้กับบัญชีทวิตเตอร์ด้วยแอปพลิเคชันดังกล่าว และมีการลงทะเบียนใช้งานอย่างเปิดเผย ระบุตัวตนได้ ส่วนเนื้อหาที่นำลงก็เป็นการประชาสัมพันธ์เชิงบวก กิจกรรมเทิดทูนสถาบัน การสร้างภาพลักษณ์ ภารกิจกองทัพบก และการช่วยเหลือประชาชน ขณะเดียวกัน หากมีผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบิดเบือน หรือข่าวเท็จที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงาน ก็จะมีการตรวจสอบและเร่งเผยแพร่ข้อเท็จจริงในสื่อสังคมออนไลน์อย่างทันท่วงที เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่มีลักษณะที่บ่งบอกถึงการนำเอาแพลตฟอร์มดังกล่าวไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่บุคคลหรือองค์กรใด หรือทำให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อสังคมโดยรวม
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ยืนยันว่า กองทัพบกใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ เพื่อสนับสนุนงานการประชาสัมพันธ์ของหน่วยระดับต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือประชาชน การสื่อสารกับกำลังพลในพื้นที่ประสบภัย และเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับสาธารณะชนเท่านั้น นอกจากนี้ กองทัพบกได้มีการปรับระบบการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยล่าสุด คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ในระดับกองทัพบกได้มีการจัดตั้งเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ของศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหน่วยทหาร จนถึงระดับกองพัน จำนวน 578 หน่วย ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างการรับรู้ในข่าวสารด้านความมั่นคง งานช่วยเหลือประชาชน งานบรรเทาภัย ได้รวดเร็วและกว้างขวางยิ่งขึ้น