วันนี้ (28 พ.ย.63) เวลา 16.24 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง ณ ศาลหลักเมืองพัทลุง ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเฝ้า ฯ รับเสด็จ
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานตรัง จังหวัดตรัง ทรงขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินออกจากท่าอากาศยานตรัง ไปยังเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยงเหนือ จังหวัดตรัง ทรงจุดเทียนชนวนที่โคมไฟฟ้าพระราชทานแด่ นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นำไปสักการะพระพุทธจอมไตร ณ วัดจอมไตร ตำบลนาโยงเหนือ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินมายังศาลหลักเมืองจังหวัดพัทลุง
ต่อมา เวลา 18.04 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงศาลหลักเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดรูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายฉัตรชัย อุตสาหะ และนางปราณี รัตนประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทูลกล้า ฯ ถวายสูจิบัตรและหนังสือที่ระลึก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ และความป็นมาของศาลหลักเมืองพัทลุง พร้อมทั้งขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง ตามลำดับ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์แล้วสวมแหวนนพรัตน์ที่ม้วนยันต์ พระราชทานแผ่นยันต์ที่จะบรรจุหัวเม็ดทรงมัณฑ์ คืนเจ้าพนักงานภูษามาลา เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังภายในศาลหลักเมืองพัทลุง ทรงหยิบแผ่นยันต์ แล้วทรงบรรจุลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ ทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู แล้วทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองพัทลุง เสด็จ ฯ ไปยังบริเวณที่ปลูกต้นไม้ ทรงปลูกต้นพะยอมอันเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพัทลุง จำนวน 2 ต้น เสร็จแล้วเสด็จ ฯ เข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก)
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณในการบูรณะซ่อมแชมศาลหลักเมืองพัทลุง เข้าเฝ้า ฯ รับพระราชทานของที่ระลึกจำนวน 100 ราย ตามลำดับ
จังหวัดพัทลุง ได้รับพะราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้จัดสร้างศาลหลักมืองประจำจังหวัดพัทลุง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ณ บริเวณวัดควนปรง หมู่ที่ 2 ตำบลท่ามิหร่ำ อำเภอมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ซึ่งได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จังหวัดพัทลุง จึงได้จัดสร้างศาลหลักเมือง และเสาหลักเมือง ประจำจังหวัดพัทลุง เมื่อปี พ.ศ. 2553 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554
ต่อมาได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของศาลหลักเมืองเพิ่มเติม โดยก่อสร้างบันไดทางขึ้นศาลหลักเมือง ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณโดยรอบศาลหลักเมือง เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ จังหวัดพัทลุงได้มีการประกอบพิธีอัญเชิญเสาหลักมืองประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมืองตามโบราณราชประเพณี โดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563
ศาลหลักเมืองพัทลุงอยู่ด้านทิศใต้วัดควนปรง หมู่ที่ 2 ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดย รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม เป็นผู้ออกแบบ พื้นที่สร้างมีขนาด กว้าง 25 เมตร ยาว 30 เมตร อาคารประธานอยู่ตรงกลาง ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 8 เมตร สูงจากระดับพื้นดิน 15.79 เมตร ด้านซ้ายของอาคารประธาน เป็นศาลาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียน มีบันไดขึ้นจากด้านทิศเหนือ เป็นสถาปัตยกรรมไทยรูปทรงจัตรมุข หลังคาซ้อนชั้นสองชั้น ยอดปรางค์พระพรหมพักตร์ที่หน้า ปลายยอดเป็นนพศูล หลังคาประดับรวยระกาหงส์ ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น กรอบประตูบัวหัวเสาตีนคันทวยฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีบันไดขึ้นสู่ตัวศาลทั้ง 4 ทิศ เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ราชพฤกษ์ เป็นไม้มงคล ได้รับบริจาคมาจากวัดเขาเจียก มอบหมายให้เรือนจำกลางพัทลุง แกะสลักเป็นเสาหลักเมือง หัวเม็ดทรงมัณฑ์ กลับฝักทองตามแบบเสาหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
และเมื่อวันศุกร์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2563 จังหวัดพัทลุงได้ทำพิธีอัญเชิญเสาหลักเมือง มาประดิษฐานคู่กับเสาหลักเมืองพัทลุง วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ได้ทำพิธีปลุกเสกเสาหลักเมือง แผ่นยันต์สยมภูว์ และดินทั้ง 4 ทิศ วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 มีพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองประดิษฐาน ปัจจุบันศาลหลักเมืองพัทลุง เป็นสถานที่กราบไหว้สักการะ และสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ