พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนเลว ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ทางตำรวจจะเน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัย ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้หารือกับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แล้วว่า จะมีการใช้ตำรวจควบคุมฝูงชนหญิงมากขึ้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเตรียมเพื่อรับมือความรุนแรง ตำรวจเข้าใจว่าเด็กก็มีสิทธิในการแสดงออกทางความคิดทางการเมือง แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายด้วย ยืนยันว่า การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวถึงกรณีที่มีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมที่หน้าศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่า น้ำที่ใช้เป็นน้ำเปล่า ไม่ผสมสารเคมี ก่อนการฉีดน้ำมีการแจ้งเตือนประชาชนไม่ให้เข้าใกล้พระบรมมหาราชวัง เนื่องจากผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะชี้แจงต่อกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กรณีการฉีดน้ำผสมสี ใส่ผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่บริเวณแยกปทุมวันอย่างชัดเจนว่า มีองค์ประกอบของสารอะไรบ้าง ก่อนจะชี้แจงกับสื่ออีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีผู้จุดพลุควันขว้างไปใส่แนวตำรวจนั้น ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้พอจะมีเบาะแสอยู่บ้างแล้ว โดยการกระทำดังกล่าวนั้นเข้าข่ายความผิดหลายอย่าง
นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแล้วจำนวน 89 คน ส่วนใหญ่เป็นความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และข้อหาอื่นๆ ตามมาตรา 116 ยุงยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และมาตรา 215 ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้งหมดก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว และตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป