น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (10 พ.ย.) เห็นชอบแนวทางการดำเนินการเพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (เอ็มโอยู) ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปี ให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ต่อไป มีจำนวนประมาณ 1.3 แสนคน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของผู้ประกอบการ เนื่องจากแรงงาน 3 สัญชาติบางส่วนเดินทางกลับประเทศแล้วไม่สามารถเดินทางกลับเข้าไทยได้ โดยอนุญาตให้แรงงาน 3 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู ที่มีวาระการจ้างงานครบ 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานได้อีกไม่เกิน 2 ปี ซึ่งเป็นการอยู่เพื่อทำงานต่อได้ไม่เกิน 1 ปี และหากประสงค์อยู่ต่อ ให้ขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรได้อีกไม่เกิน 1 ปี โดยจะได้รับการยกเว้นเปรียบเทียบปรับการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดแก่คนต่างด้าวที่ระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 1–30 พฤศจิกายน 2563
ทั้งนี้ คนต่างด้าวจะต้องดำเนินการ คือ ตรวจสุขภาพ เพื่อนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นขออนุญาตทำงานและขออนุญาตอยู่ราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป รวมถึงยื่นขออนุญาตทำงานต่อนายทะเบียน โดยให้กรมการจัดหางานออกใบอนุญาตทำงานให้ตามระยะเวลาที่ผู้ขออนุญาตร้องขอแต่ไม่เกิน 2 ปี และขอรับการตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการตรวจใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ครั้งละไม่เกิน 1ปี ค่าธรรมเนียมคำขอ จำนวน 1,900 บาท ขณะเดียวกัน ยังต้องจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย โดยจากนี้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติได้รับทราบและดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป