xs
xsm
sm
md
lg

“หมอธีระวัฒน์”ชี้ถ้าใช้กัญชาอย่างชาญฉลาดก็รักษาโรคอื่นๆ ได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha หัวข้อ การใช้กัญชาอย่างชาญฉลาด ระบุว่า ทำไมโรคสะเก็ดเงินได้ผล การรักษาแบบปัจจุบันด้วยการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งควบคุมโรคได้จำกัดและมีผลแทรกซ้อน

ดังนั้นผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทยเองหรือในต่างประเทศ จำเป็นต้องหาทางเลือกเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง ด้วที่มีรายงานมาเรื่อยๆว่าได้ผล และนั่นคือที่มาของการใช้กัญชาไม่ว่าจะเป็นการทาอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับการหยดร่วมด้วย

ทำไมกัญชาใช้ได้ผลในโรคอื่นๆ อีกเช่นโรคพุ่มพวง

โรคพุ่มพวง SLE เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายวิปริต และไปทำลายร่างกายตนเองตั้งแต่หัวจดเท้า ผม ผิวหนังปอด หัวใจ ตับ ไต สมองเส้นเลือด
กัญชามีฤทธิ์ในการปรับภูมิคุ้มกันโดยไม่ใช่เป็นการกดหรือเพิ่มจะเป็นการปรับสมดุลให้เหมาะสม immunomodulator

ดังนั้นกรณีที่คุณหมอเสริฐที่จังหวัดอุทัยธานีเริ่มเห็นประโยชน์ของกัญชามาจากการที่ช่วยบุคลากรในโรงพยาบาลเองจากโรคนี้

ทำไมกัญชาใช้ประโยชน์ได้ในโรคทางสมองเสื่อมเช่นโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน

ทั้งนี้เพราะว่าโรคที่เรียกว่าสมองเสื่อมในความเป็นจริง แล้วปัจจัยที่สำคัญที่เร่งให้เกิดโรค เป็นเรื่องของการอักเสบจากในร่างกายนอกสมอง และเป็นเรื่องของการอักเสบที่เกิดขึ้นจากเซลล์ในสมอง
ทั้งหมดนี้ทำร้ายระบบเส้นเลือดรวมทั้งทำร้ายระบบในการกำจัดขยะหรือของเสียในสมอง

นอกจากระบบการอักเสบที่กัญชาเข้าไปควบคุมสมดุลแล้วมีอะไรอีกอย่างอื่นหรือไม่

ตัวรับกัญชาในร่างกายแทรกอยู่ในทุกระบบไม่ว่าจะเป็นในระบบประสาทหรืออวัยวะอื่นๆและอยู่ในเซลล์และอยู่ในอนุภาคในเซลล์ที่ควบคุมการปรับพลังงานของเซลล์ในทุกอวัยวะ เพียงแต่ตัวรับกัญชาในร่างกายอย่างเดียวก็จะทำการปรับสมดุลของสารที่เชื่อมต่อสัญญาณ ระหว่างเซลล์หนึ่งของระบบหนึ่งไปยังอีกเซลล์ในระบบอื่น

และนอกจากนั้นสัญญาณที่ส่งมายังไปกระตุ้นการสร้างกัญชาตามธรรมชาติในร่างกายตามระบบซึ่งสร้างขึ้นมาและทำงานในช่วงระยะหนึ่งๆและหยุดไปเมื่อการทำงานนั้นเสร็จสิ้น

ดังนั้นกัญชาที่ใส่เข้ามาจากภายนอกจะใช้ในปริมาณน้อยนิด เพื่อปลุกการสร้างกัญชาในร่างกายให้ทำงานได้ ให้สอดประสานกันในทุกระบบของร่างกาย

จำเป็นหรือที่กัญชาจะสามารถใช้ได้ใน 4 โรคใน 39 โรค หรือมากกว่านั้น?

การใช้กัญชานั้นจะใช้ได้อย่างชาญฉลาดและได้ประโยชน์สูงสุด คือการทราบว่าโรคนั้นๆต้นเหตุนั้นๆ มีกลไกอย่างไรและกัญชาจะเข้าไปสอดแทรกในการปรับสมดุลได้อย่างไร และที่สำคัญก็คือรู้ขนาดรู้วิธีการใช้รู้ว่าจะไปตีกับยาปัจจุบันที่ใช้อยู่แล้วหรือไม่

ดังนั้นการแพทย์ไทยที่จารึกไว้เป็นตำรับตำราหลาย 100 ปี จะถ่ายทอดให้ลูกให้หลานและมีประโยชน์สำหรับหลายภาวะ หลายโรคด้วยกัน

กัญชารักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่ รายงานจากทั่วโลกในผู้ป่วยมะเร็งที่หมดหวังรวมทั้งถึงผู้ป่วยในประเทศไทยกัญชาช่วยได้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งการรักษาแผนปัจจุบันแต่ถ้าเป็นการควบรวมด้วยกันน่าจะเป็นการได้ประโยชน์สูงสุดและในกรณีที่หมดหวัง เป็นสิทธิ์ของคนไข้ที่จะเลือกกัญชาในการรักษาคุณภาพชีวิตตนเอง

มีรายงานทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ แน่นอนการรายงานถึงกลไก แต่กระนั้น
ไม่มีใครสามารถเข้าใจถึงความแยบยลของกัญชาจากภายนอกที่กระตุ้นระบบกัญชาภายในและไปสั่งงานให้ร่างกายกำจัดเซลล์มะเร็ง

การศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิตในสัตว์ทดลองสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถรักษามะเร็งปอดในสัตว์ทดลองได้

ต้องรอรายงานการรักษามะเร็งด้วยกัญชาอีกต่อไปนานแค่ไหน

คนไทยคงไม่ทราบว่าบริษัทยายักษ์ใหญ่ของอังกฤษร่วมกับญี่ปุ่นยื่นคำร้องขอจดสิทธิบัตรกัญชาในการรักษามะเร็งเต้านมลำไส้ใหญ่และต่อมลูกหมากตั้งแต่ปี 2554 และถึงแม้จะถูกประกาศด้วยมาตรา 44 แต่มีกระบวนการยื่นคัดค้านได้ได้

ขณะที่คนไทยบางกลุ่มที่ทำการต่อต้านการใช้กัญชารักษามะเร็ง แต่บริษัทยาต่างชาติกำลังจะฮุบ กัญชาในการรักษามะเร็ง
และผลิตยากัญชาสำหรับรักษาอาการปวดและรักษาโรคลมชักที่ดื้อยาออกมาแล้วซึ่งราคายาคือ 30,000 ถึง 40,000 บาทต่อเดือนต่อคน และคนไทยบางส่วนนอกจากต่อต้านกัญชาที่ทำจากสมุนไพรไทยยังอ้าแขนรับกัญชาจากบริษัทเหล่านี้ที่กำลังจะฮุบสิทธิบัตรกัญชาของไทย

คนไทยบางส่วนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่

ถ้ามัวแต่ถามว่าจะใช้ได้ในโรคอะไร
เพียงถามตัวเองว่าที่เจ็บป่วยขณะนี้ได้ประโยชน์เต็มที่หรือไม่จากการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน

สามารถบรรเทาอาการเต็มที่ได้หรือไม่จากการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน
และนี่คือที่มาของการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่ต้องรู้วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน
แต่รู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองเจ็บป่วย ลูกตัวเองกำลังจะตาย ต้นเองกำลังจะเสียชีวิต

เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้กัญชา

กรุณาอย่าถาม
กรุณาอย่าอ้างว่ายังไม่มีรายงานในวารสาร
ลองไปดูคนไทยที่เจ็บป่วยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากกัญชา

เท่านั้นก็พอ