นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol ระบุว่า เรื่องหลอกเด็ก (3) เรื่อง"กษัตริย์ไทยรวยที่สุดในโลก"
ในขณะที่คนไทยลำบากยากจน
และทรงได้รับมรดกจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 กว่า 300,000 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีมรดกให้รัฐบาลเยอรมันประมาณ 100,000 ล้านบาท เป็นการหลอกให้เด็กรังเกียจความดีความงาม และให้นิยมชมชอบความเลว ความชั่ว และการเนรคุณ
เป็นการมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ว่ารวยแล้วยังโกงภาษี และมุ่งร้ายโดยยืมมือเยอรมันให้เรียกเก็บภาษีราว100,000ล้านบาทจากพระองค์ท่าน
เป็นเรื่องที่ใครที่มีสติและรู้จักรับผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง จะไม่อาจคิดหรือทำเป็นอันขาด
เรื่องนี้เป็นอย่างไรเล่า
1.ความร่ำรวย เป็นเรื่องที่ดีงาม เว้นแต่จะร่ำรวยจากการปล้นสะดมคนอื่น ทุกรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ล้วนมีนโยบาย ส่งเสริมความร่ำรวยทั้งระดับประเทศและระดับประชาชนกันทั้งสิ้น การให้พรทั้งหลาย ก็เป็นการให้พรให้ร่ำรวย ให้เป็นสุขทั้งนั้น
คนไทยเราแม้ยากจนเข็ญใจ ก็ถูกฝึกสอนกันมาให้มีใจยินดีต่อผู้อื่นที่มีความร่ำรวยกว่าตน ไม่เคยถูกสอนให้คิดล้างผลาญคนที่มีฐานะดีกว่าต้นดังที่ทำกันนั้นเลย
2.ความจริงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยไม่ได้ร่ำรวยที่สุดในโลก ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคือสถาบันพระมหากษัตริย์ของอังกฤษ รวยระดับหลายล้านๆ บาท ไม่ใช่แค่ระดับ 3 แสนล้านบาท เฉพาะที่ดินในประเทศแคนาดาก็มีจำนวนกว่า 2 ใน 3 ของประเทศแคนาดา ถัดมาก็เป็นสถาบันกษัตริย์ของซาอุดีอาระเบีย และอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง
3.มูลค่าทรัพย์สินที่ว่าทรงร่ำรวยกว่า 300,000 ล้านบาทนั้น ถ้าเทียบกับทรัพย์สินของเจ้าสัวซีพี หรือเจ้าสัวเจริญ หรือเจ้าสัวคิงพาวเวอร์ หรือเจ้าสัวขาใหญ่วงการพลังงาน ซึ่งล้วนเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่บรรพบุรุษเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารไม่เกิน 200 ปี ก็ยังน้อยกว่ากันมาก
3 ข้อสำคัญคือทรัพย์สิน ที่อ้างว่ามีมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่เป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนราชการ มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย เดิมสังกัดอยู่กับกระทรวงการคลัง มีคณะกรรมการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้มีอำนาจดูแล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการ เพิ่งมีการตรากฎหมายโอนไปสังกัดสำนักพระราชวัง เมื่อปี 2560 และแก้ไขในปี 2561 นี้เอง
ทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงไม่ใช่พระราชมรดกของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ดังนั้นเมื่อทรงเสด็จสวรรณคต ทรัพย์สินดังกล่าวจึง ไม่ใช่พระราชมรดก ไม่ได้ตกทอดถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ตามกฎหมายมรดก จึงไม่มีภาระภาษีมรดกใดๆ ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ
เรื่องนี้มีบทกฎหมายชัดเจนมานานนักหนาแล้ว แต่จอมลวงโลกกลับเอามาหลอกเด็กเล็กๆ ได้ลงคอ นับว่าเป็นความโหดร้ายต่อเด็กเล็กๆ มาก
นึกดูกันเอาเองเถิดว่า การที่ใครจะไปหลอกลวงรัฐบาลต่างประเทศเพื่อให้เรียกเก็บภาษีจากประมุขของประเทศตัวเอง และหวังเอาแค่เรื่องที่ไปยื่นข้อกล่าวหาสร้างข่าวลวงโลกตีกินหลอกเด็กกันแบบหน้าซื่อตาใสนั้น ว่าเป็นคนแบบไหน
ที่น่าแปลกใจก็คือ คนมีอำนาจหน้าที่ซึ่งทุกวัน พร่ำแต่คำว่าปกป้องสถาบันมาปกป้องตนเอง ว่าทำไมจึงไม่อธิบายชี้แจงไปตามความจริง ก็จะมีความเข้าใจที่ถูกต้องได้ไม่ยากไม่ลำบากเลย คิดอะไรกันอยู่
#เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน
*จักได้อธิบายเรื่องสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกฎหมายใหม่ เกี่ยวกับการจัดระเบียบ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เมื่อ พ.ศ. 2561 จะได้เปิดโฉมหน้ามหาโจรปล้นเจ้า กันให้จะแจ้งเสียที