เมื่อเวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นคำร้องขอให้ กกต. มีมติให้ดำเนินการไล่เบี้ยยึดเงิน 191.2 ล้านบาท จากหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คน มาคืนกองทุนพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 โดยอนุโลม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก กกต.ได้มีมติให้สำนักงาน กกต.แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกระทำผิดมาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กู้ยืมเงิน 191.2 ล้านบาท จากนายธนาธร และนายธนาธร จะเป็นความผิดฐานบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท ตามที่มาตรา 66 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 กำหนดอีกด้วย ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา 124 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ส่วนเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ที่ตามมาตรา 125 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 นั้น กำหนดโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองนั้น ข่าวที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่า กกต.ยังไม่ได้ข้อยุติในส่วนนี้ เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างสำนักงาน กกต.และคณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. โดยทางฝ่ายสำนักงานเสนอว่าสามารถที่จะยึดเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้ แต่ทางคณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.เห็นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ก็ไม่เหลือพรรคการเมืองที่จะให้ กกต.ไปเรียกเงินมาเป็นของกองทุนฯ ได้
กรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่า แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบไปแล้ว แต่ตามมาตรา 95 วรรคสอง ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 กำหนดให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะต้องชำระบัญชีของพรรคจนกว่าจะแล้วเสร็จ หากมีทรัพย์สินของพรรคส่วนใดที่คงเหลือต้องยึดมาขายทอดตลาดทั้งหมด ดังนั้น ทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คน จะปฏิเสธภาระความรับผิดชอบที่คณะตนได้กระทำไปในทางที่ผิดกฎหมายในขณะที่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมิได้ ซึ่งเมื่อ กกต.ต้องไปดำเนินการส่งเรื่องฟ้องร้องในทางอาญาเอาผิด หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คนแล้วก็จักต้องพ่วงเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งที่คงเหลือทั้งหมดเพื่อให้ศาลสั่งนำเงินเข้ากองทุนพรรคการเมืองต่อไปด้วย และหากไม่ยอมชำระก็ให้ทำการบังคับคดีโดยการยึดทรัพย์กรรมการบริหารอนาคตใหม่ทั้ง 15 คน นำมาขายทอดตลาดต่อไป จึงจะชอบ